"นายทุนจีนสีเทา" 2 สัญชาติ คือใคร ทำไมดำเนินคดียากเย็น แม้ "บิ๊กโจ๊ก" จะสั่ง 

กลายเป็นมหากาพย์เรื่องยาว ที่ประชาชนเกิดคำถามและมีข้อข้องใจ ว่าใครกันแน่คือ “นายทุนจีนสีเทา” ส่วนนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ก็ต้องมานั่งแก้ปมกันทุกวี่วัน หลังจากที่มีการทลายปาร์ตี้ยาเคของคนจีน รวมถึงขยายผลจับกุม “นายทุนจีนสีเทา” ที่ชาวบ้านต่างซุบซิบกันว่า เป็นท่อน้ำเลี้ยงของนักการเมืองดัง ซึ่งมีชื่อของ “อดีตรัฐมนตรี” เข้ามาเอี่ยว มิหน่ำซ้ำเรื่องราวต่างๆ ดูไม่จบลงง่ายๆ เมื่อ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำข้อมูลต่างๆ ออกมาแฉกลุ่ม “นายทุนจีนสีเทา” ต่อมาก็เกิดการปะทะคารมณ์กับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล ที่ออกมาบอกว่า “นายทุนจีนสีเทา” ถูกกลั่นแกล้ง

ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (13 พฤศจิกายน 2565) เวลาประมาณ 14.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบ เพื่อติดตามความคืบหน้า คดีกลุ่ม “นายทุนจีนสีเทา” ลงทุนทำธุรกิจนอมินี ในประเทศไทย 

บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า วันนี้ได้เรียกประชุมทั้ง ฝ่ายสืบสวนของ ตร.และ บช.น. เกี่ยวกับเรื่องทุนจีนทั้งหมด รวมถึงที่นำยาเสพติด เข้ามาในประเทศ ซึ่งไม่ได้มองคนจีนทั้งหมดเป็นอาชญากร ประเทศไทยมีการปรึกษาหารือ กับเอกอัครราชทูตจีน ซึ่งจีนเองก็มีการปราบปราม โดย "กลุ่มนายทุนจีนสีเทา" ส่วนใหญ่จะมี 2 สัญชาติ ต่างกับคนจีน ที่มีสัญชาติเดียว จึงทำให้เห็นว่า ส่อไปในทางที่จะเข้ามาทำเรื่องไม่ดี และไม่อยากกลับประเทศ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกอีกว่า จะเอาข้อมูลทั้งหมด มาบูรณาการร่วมกัน ทั้งเส้นทางการเงิน ความเชื่อมโยงถึงบุคคลอื่น ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น และจะมีการออกหมายจับให้ครบ ส่วนคดีของกลุ่ม "นายทุนจีนสีเทา" ได้มีการเร่งรัด ให้ดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 2-3 อาทิตย์นี้ ใครที่อยู่ในไทย จะต้องจับให้หมด รวมถึงคนไทย ที่ให้การช่วยเหลือ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งใดก็ตาม ซึ่งตรงนี้ผู้สื่อข่าวคาดว่าจะหมายถึง "อดีตรัฐมนตรี" ส่วนคนจีนที่หลบหนีไปแล้ว จะดำเนินการขออนุมัติหมายจับ Red Notice หรือ หมายแดง เพื่อประกาศสืบจับทั่วโลก