คณะทำงาน อสส. แต่งตั้งดูแลคดี "ตู้ห่าว" ดีเดย์ ประชุมนัดแรก เตรียมรวบรวมหลักฐาน จ่อแจ้งข้อหา "ฟอกเงิน" ใน 30 วัน
(20 ธ.ค.2565) เมื่อเวลา 10.00 น. มีการประชุมเป็นครั้งแรก หลังอัยการสูงสุด (อสส.) แถลงรับคดี "ตู้ห่าว" เป็นคดีสำคัญ และได้ตั้งคณะทำงานกำกับสอบสวนและการดำเนินคดีกับ นายชัยณัฐร์ กรชายานันท์ หรือ "ตู้ห่าว" กับพวก โดยมี นางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน ร่วมกับ พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยแต่งตั้ง นายสมเกียรติ คุณวัฒนานนท์ รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมกับคณะทำงานคนอื่น ๆ รวม 9 คน
การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นที่สำนักงานอัยการสูงสุด ชั้น 9 คณะทำงานทั้งหมด เข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ และงดแถลงข่าวหลังประชุม โดยมีรายงานว่า สำนักงานอัยการสูงสุดจะทำข่าวแจกสื่อมวลชนภายหลัง หลังมีการพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางกลับทันที โดยเปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่าวันนี้ เป็นการประชุมครั้งแรก หลังรับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เพื่อวางกรอบแนวทาง และจะให้โฆษกอัยการสูงสุด เป็นผู้แถลงความคืบหน้าแต่เพียงผู้เดียว เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน แต่เบื้องต้นยืนยันว่า มีความคืบหน้าไปพอสมควร
ด้าน ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้ออกหมายเรียก นางสาวพัชรินทร์ คนใกล้ชิด ตู้ห่าว และนิติบุคคลอีก 21 บริษัท เป็นจำนวน 10 คน เพื่อมาสอบปากคำในฐานะพยาน ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน พิจารณาแจ้งข้อหาฟอกเงินภายใน 30 วัน
สำหรับข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติ DSI ต้องประมวลส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา หากพบว่าเข้าองค์ประกอบ อัยการสูงสุดจะเป็นผู้สั่งคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ แต่หากไม่เข้าองค์ประกอบ DSI ก็จะสอบสวนในส่วนของคดีฟอกเงิน การตั้งนอมินี และการถือหุ้นต่าง ๆ ส่วนตำรวจก็จะดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามเดิม
สำหรับการประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีหนังสือมาถึงสำนักงานอัยการสูงสุดว่าคดีดังกล่าวเข้าเงื่อนไขความผิดตามกฎหมายที่ได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ตามมาตรา 20 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
9 คณะทํางานประกอบด้วย
- อัยการสูงสุด เป็นที่ปรึกษาคณะทํางาน
- ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน
- นายสมเกียรติ คุณวัฒนานนท์ รองอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะทํางาน
- ร.ต.ท.อุทัย อาทิเวช รองอัยการสูงสุด เป็นคณะทํางาน
- นายศุภชัย นิพิธกุลที่ปรึกษาอัยการสูงสุด เป็นคณะทํางาน
- เลขานุการอัยการสูงสุด เป็นคณะทํางาน
- อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอัยการสูงสุด เป็นคณะทํางาน
- ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นคณะทำงาน
- อธิบดีอัยการ สํานักงานการสอบสวนเป็นคณะทำงานและเลขานุการ
อำนาจหน้าที่ของคณะทำงาน
- กำกับและติดตามการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ในคดีนี้ให้เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ
- เร่งรัดการสอบสวนและการส่งสำนวนการสอบสวนคดีนี้ให้ทัน ภายในกรอบระยะเวลาในการควบคุมฝากขังผู้ต้องหาตามกฎหมาย ทั้งนี้ ให้มีระยะเวลาพอสมควรเสนอให้อัยการสูงสุด พิจารณาสั่งคดี
- แต่งตั้งคณะทำงานย่อย เพื่อมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้ โดยให้เลขานุการคณะทำงานรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้ ให้อัยการสูงสุดทราบเป็นระยะ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 14 ธ.ค.65
Related posts
- เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
- อาลัย 'น้องเบนซ์' รร.ราชวินิตมัธยม เหยื่อ ถังดับเพลิง ระเบิด พบ ทำเพจดัง
- เรื่องย่อ 'ปิดเมืองล่า PATTAYA HEAT' หนังไทยฟอร์มยักษ์ ทุ่มทุนสร้าง 100 ล้าน
- ปรับโอน ‘เงินบำนาญชราภาพ’ ผู้ประกันตน ‘เดือนตรงเดือน’
- กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
Lastest
เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็น กดดันนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงเวลาแสดงสปิริต เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้นำ ควรคืน "บ้านพักหลวง" ชี้ด้วยบทบาทข้าราชการการเมืองไม่ควรนำเอาระเบียบกองทัพมาใช้ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ เป็นเรื่องของกติกาเดิม ถ้าจะแก้ไขต้องไปแก้กฎกระทรวง
กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือบริษัท อำนวยการดับเพลิง ร่วมระงับเหตุอัคคีภัย หรือ ไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง