พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2565 บังคับให้เด็กต่ำ 6 ขวบ ต้องนั่ง คาร์ซีท – สูงไม่ถึง 135 ซม. ต้องคาด เข็มขัดนิรภัย ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2,000 บาท ผู้ปกครองรีบซื้อ คาร์ซีต ติดตั้งในรถเลย เริ่ม 5 ก.ย. 65
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งที่เป็น ผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสาร โดยสาระสำคัญ ของกฎหมายดังกล่าว เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเด็ก ตามมาตรา 123 ขณะโดยสารยานพาหนะ หรือ รถยนต์ส่วนบุคคล โดยระบุ เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือผู้โดยสารที่สูงไม่เกิน 135 ซม. จะต้องนั่ง คาร์ซีท บูสเตอร์ซีท หรือคาด เข็มขัดนิรภัย ซึ่งหากมีการฝ่าฝืน จะต้องโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
กรณีรถส่วนบุคคล โดยมาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทนมาตรา 123 ภายใต้บังคับมาตรา 123/1 ในขณะขับรถยนต์ ผู้ที่อยู่ในรถยนต์ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
– ผู้ขับขี่ ต้องรัดร่างกายด้วย เข็มขัดนิรภัย ไว้กับที่นั่งตลอดเวลา ในขณะขับรถยนต์
– คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์
– คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
– คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด
กรณีรถโดยสาร
มาตรา 8 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 123/1 มาตรา 123/2 และมาตรา 123/3 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
ในการใช้รถนั่งสองแถว รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถ รถกระบะ รถกึ่งกระบะ หรือรถยนต์อื่นตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประกาศกำหนด หากได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้คนโดยสารที่อยู่ในรถยนต์นั้นนอกจากคนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้า ได้รับยกเว้นไม่ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยตามมาตรา 123
(1) การบรรทุกคนโดยสาร ต้องไม่เกินจำนวนตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด
สาหรับรถยนต์แต่ละประเภท และการโดยสารนั้นต้องไม่มีการยืนหรือนั่งโดยสารในลักษณะที่เป็น
การเสี่ยงภัยตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนดสำหรับรถยนต์แต่ละประเภท และ
(2) การขับรถยนต์ต้องใช้อัตราความเร็วตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด
ซึ่งอาจกำหนดแยกตามประเภทรถยนต์ก็ได้ แต่ต้องไม่เกิน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มาตรา 123/2 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถยนต์ในขณะที่มีคนโดยสารนั่งแถวตอนหน้าเกิน 2 คน
หรือคนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้านั้นมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 123
มาตรา 123/3 ผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะตามกฎหมาย ว่าด้วยรถยนต์หรือรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร เพื่อสินจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ต้องแจ้งเตือนหรือจัดให้มีการแจ้งเตือนด้วยวิธีการอื่น เพื่อให้คนโดยสารในรถนั้นปฏิบัติตามมาตรา 123 และมาตรา 123/1 (1) ทุกครั้งก่อนการออกรถ ทั้งนี้ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด
ทั้งนี้ ทั้งความผิดในส่วนของรถส่วนบุคคลและรถโดยสาร มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดย พ.ร.บ. นี้มีผลใช้บังคับในอีก 120 วัน นับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหมายถึงจะเริ่มใช้วันแรกในวันที่ 5 กันยายน 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
Related posts
- เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
- อาลัย 'น้องเบนซ์' รร.ราชวินิตมัธยม เหยื่อ ถังดับเพลิง ระเบิด พบ ทำเพจดัง
- เรื่องย่อ 'ปิดเมืองล่า PATTAYA HEAT' หนังไทยฟอร์มยักษ์ ทุ่มทุนสร้าง 100 ล้าน
- ปรับโอน ‘เงินบำนาญชราภาพ’ ผู้ประกันตน ‘เดือนตรงเดือน’
- กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
Lastest
เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็น กดดันนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงเวลาแสดงสปิริต เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้นำ ควรคืน "บ้านพักหลวง" ชี้ด้วยบทบาทข้าราชการการเมืองไม่ควรนำเอาระเบียบกองทัพมาใช้ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ เป็นเรื่องของกติกาเดิม ถ้าจะแก้ไขต้องไปแก้กฎกระทรวง
กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือบริษัท อำนวยการดับเพลิง ร่วมระงับเหตุอัคคีภัย หรือ ไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง