Trending News

Blog Post

สาววัย 19 แชร์เจอ "มะเร็งรังไข่" แบบไม่ตั้งตัว ซ้ำยังมี ภาวะซึมเศร้า แทรกซ้อน
สังคม

สาววัย 19 แชร์เจอ "มะเร็งรังไข่" แบบไม่ตั้งตัว ซ้ำยังมี ภาวะซึมเศร้า แทรกซ้อน 

สาววัย 19 แชร์อุทาหรณ์เจอ "มะเร็งรังไข่" แบบไม่ตั้งตัว อธิบายขั้นตอนรักษาสุดทรมาน ซ้ำเจอ ภาวะซึมเศร้า แทรกซ้อน ระหว่างให้คีโม

ผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชี  แม่หมอสีม่วง (@AmethystMagissa) แชร์ประสบการณ์การตรวจพบ "มะเร็งรังไข่" ระยะที่ 2 ในช่วงวัยเพียง 19 ปี ระบุว่า จุดเริ่มต้น ช่วงวัย​ 19​ เป็นช่วงที่ทำงานไปเรียนไป ไม่ค่อยได้พักผ่อน​ และกินแต่ของไม่มีประโยชน์กับร่างกาย​ แต่ตอนนั้นแปลกนะ​ กินเยอะเท่าไรก็ไม่อ้วน​มีแต่ผอมลงๆ​ จนไปกินบุฟเฟต์ของดิบ แล้วมีความรู้สึกเหมือนท้องระเบิด พุงป่อง เหมือนคนท้อง ไม่ยอมลด 3 วันติด 

 

โดยตัวเธอเอง เชื่อว่ามันไม่ปกติ เพราะท้องบวมแข็งน่ากลัวมาก​ จนแม่กับเพื่อนทักว่าท้องหรือเปล่า และช่วงท้องโตมันมีอาการอึดอัดมากๆ เหมือนมีน้ำอยู่ในท้องตลอดเวลา​ กินข้าวก็ไม่ได้​ กินน้ำก็ไม่ดี​ ทรมานเหมือนตกนรก​ ตอนแรกคิดว่าท้องอืดปกติแต่มันไม่ใช่ จนทนไม่ไหวเลยตัดสินใจไปหาหมอ

เจ้าของแอคเคาน์รายดังกล่าว เล่าเรื่องราวก่อนที่จะตรวจเจอ "มะเร็งรังไข่" ว่า  หมอที่แรก​ ตรวจแป๊บเดียวแล้วบอกว่า​ท้องอืดกับเป็น โรคกระเพาะ ครับ​กลับบ้านได้ครับผม ​พร้อมจ่ายยาแก้ท้องอืดมาให้ และดิฉันที่อุ้มท้องอันหนักอึ้ง ซึ่งอุดมไปด้วยอะไรไม่รู้ก็กลับมานอนซมแบบงงๆ​ ตอนนั้นเริ่มมีอาการไข้ขึ้น​ ไปทำงานไม่ไหวเลยลามาหาหมอ

 

หมอที่​ 2 ณ​ คลินิกแห่งหนึ่ง หมอคนนี้ตรวจละเอียดมากๆ​ มีการเคาะท้อง​ ฟังท้อง​ หมอบอกว่ามีน้ำในท้องเยอะมาก​ มันเยอะแบบอันตราย แล้วแนะนำให้ไปโรงพยาบาลใหญ่ให้เร็วที่สุดเพราะอาการไม่ปกติ เนื่องจากมีไข้อ่อนๆ​แล้ว​ ก็เลยบอกแม่ให้พาไปโรงพยาบาลที่คลินิกแนะนำ

 

มะเร็งรังไข่

หมอที่​ 3 ตรวจโรคทั่วไป​ รพ.แห่งหนึ่ง ก็ขึ้นเตียงปกติ​ นี่ก็แบกสังขารไป​ ทรมานก็ทรมาน​ หวังเหลือเกินให้หมอช่วยเหลือ​ แต่สุดท้ายหมอก็บอกว่า เป็นโรคกระเพาะ​ เลยหงุดหงิดๆ กลับบ้าน​ กระเพาะบ้าบอไรทำไมมันป่องแบบนี้ จนกลางดึกทนกับอาการ​ทรมานไม่ไหว เลยไปเข้าห้องฉุกเฉินในคืนนั้น หมอห้องฉุกเฉินเก่งมาก​ ไม่ตรวจผ่านๆ​ แต่พาไปอัลตราซาวด์ดูสิ่งที่อยู่ในท้อง​แบบละเอียด​ ปรากฏว่ามันคือน้ำอันมากมายมหาศาลที่มาจากรังไข่​ หมอเลยหัตถการให้แบบเบสิกๆไปก่อน​ โดยการเจาะท้องเอาน้ำออก​ น้ำ​ 2 ลิตรอะที่เจาะออกมา​อุทานเลย

มะเร็งรังไข่

 

หมอห้องฉุกเฉินเขาก็เป็นธุระให้​ โดยการส่งเคสแม่หมอไปให้นารีเวชโดยตรง​ พอรุ่งเช้าก็ไปตามนัดเพื่อตรวจอาการ​ ได้รับการตรวจภายในทางรูทวารหนัก​ หมอเขาก็คลำๆสแกนแล้วไปเจอต้นตอของโรค​ เลยทำการนัดผ่าตัดในเดือนมกราคม​ ซึ่งรู้สึกโล่ง​อย่างน้อยก็มีทางหาย หมอเขาช่วยเต็มที่ก็อุ่นใจ

 

เหนื่อยมาก ร่างกายอ่อนเพลีย​ น้ำในท้องก็เยอะ​ ไข้ก็ขึ้น​ จนถึงจุดไฟนอล​ วันที่ไข้แตะสูงถึง​ 38 แม่กับพ่อเห็นท่าไม่ดีเลยขับรถไปส่งห้องฉุกเฉิน​อีกครั้ง กลางดึกคืนนั้น​หมอห้องฉุกเฉินเข้ามารุมเพราะอาการหนัก​ ไข้ขึ้นจนเกือบแตะ​ 40 เขาจับขึ้นขาหยั่ง​ ตรวจจนได้ข้อสรุปว่า​ "พรุ่งนี้ผ่าด่วน" ส่งขึ้นตึกผู้ป่วยนอนพักอดอาหาร ​8 ชม.​ มีแม่นั่งข้างๆเป็นกำลังใจ

 

มะเร็งรังไข่

 

รู้สึกดีมากๆที่อาจารย์หมอมาดูแลเองเลย และทีมของอาจารย์คุณภาพคับแน่น​ ทำให้การเยียวยาแผลผ่านไปได้ด้วยดี ​อาเจียนบ้าง​ กินข้าวไม่ได้บ้าง แต่ก็ปกติของการผ่าตัดนะ​ ที่ไม่ชินคือโดนต่อสายปัสสาวะ พักรักษา​ประมาณ​ 7 วันก็ได้กลับมานอนบ้านรอฟังผลชิ้นเนื้อที่ผ่าออก

 

ผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ก็ได้มาฟังผลการผ่าตัด​ หมอบอกว่า​ตัดรังไข่และมดลูกซีกขวาออก​ เหลือซีกซ้าย​ ทำให้ยังมีประจำเดือนได้​ มีลูกได้​ (จริง ๆ ขอให้เอาออกไปเลย​ แต่อาจารย์เขาห่วงว่าเราจะอยากสร้างครอบครัว​ เลยเหลือไว้)​ และผลสุดท้ายคือการรายงานว่าแม่หมอเป็น "มะเร็งรังไข่" ระยะที่ 2

 

ตอนนั้นรู้สึกช็อกหัวหมุน เหมือนทุกอย่างประดาประดังเข้ามา มะเร็งเหรอ? คีโมเหรอ? แล้วเส้นผมฉันล่ะ แล้วชีวิตวัยรุ่นของฉัน…  การเรียนการงานกำลังไปได้ดีแต่ต้องมาพังทลายเพราะมะเร็งคำเดียว ยอมรับว่าร้องไห้ไม่ออก มันช็อก มันเบลอไปหมด เหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว หมอให้เซ็นยินยอมในการรับยาเคมีบำบัด จริงๆตอนนั้นท้อมาก อยากตาย แต่สุดท้ายก็สลัดความคิดลบๆทิ้งและยืนหยัดสู้กับมัน มะเร็งก็มะเร็งดิวะ เลยยอมรับการรักษาเดินหน้าเต็มอัตรา ไว้ใจหมอ ให้ใจพยาบาล เอาเลยจัดมา

 

มะเร็งเยอะๆ เพราะมันทรมานมาก มีอาการผมร่วงตามมาจนต้องโกนผม แต่ได้ครอบครัว เพื่อน หมอ พยาบาล มาให้กำลังใจจนมีแรงฮึดสู้

ตอนนั้นมันช่วยอะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างกำลังจะดี แต่กลับมาวนลูปอีกครั้ง ขึ้นเขียงผ่าตัด ฟังผลชิ้นเนื้อ และเพิ่มคอร์สคีโมอีกสองคอร์ส

ในการผ่าตัดรอบที่ 2 มีสภาวะซึมเศร้าหนักมากจนจิตแพทย์ต้องเข้ามาดูแล บวกกับสภาวะดื้อยา ความเครียด ทำให้เริ่มมีอาการประสาทหลอน ดิ้นทุรนทุรายในคีโมคอร์สสุดท้าย แต่ก็ผ่านมาได้จนตอนนี้สามารถเอาชนะมะเร็ง

นอกจากนี้สาววัย 19 ปี คนนี้ ยังระบุอีกว่า การเป็นมะเร็งทำให้เธอได้แต่งตัวใหม่ๆ ลองเปลี่ยนทรงผม และได้รับความใจดีมากมายมหาศาลจากคนรอบข้าง หล่อหลอมให้แข็งแกร่ง ขึ้นอย่างทุกวันนี้ ขอบคุณทุกคน ณ ตอนนั้นนะคะที่ดูแล  ถามไถ่ และให้กำลังใจกัน มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากๆ

ส่วนเคล็ดลับการกินที่บรรเทาอาการมะเร็ง คือ กิน เกลือหิมาลัยกับกีวี่ และอยากฝากให้ ไปตรวจและหาวิธีป้องกันให้เร็วที่สุด เซลล์มะเร็งทุกคนมีอยู่แล้วเชื่อดิ เพราะโลกใบนี้มันไม่มีอะไรไม่เป็นพิษ มันอยู่ที่ว่ามะเร็งจะถูกกระตุ้นขึ้นมาเมื่อไรเท่านั้น เหมือนกับระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ

พร้อมฝากถึงผู้ป่วยทุกคนที่กำลังเผชิญกับโรคร้ายว่า อย่ายอมแพ้ถ้ายังมีหวัง ถ้าท้อก็แค่ถอยออกมาตั้งหลัก อย่าฝืนตัวเอง และจงกล้าเผชิญหน้ากับความกลัว ไม่มีโรคร้ายใดทำร้ายคุณได้ ถ้าตราบใดที่หัวใจยังคงเชื่อมั่นในพลังที่มี สู้ต่อไปนะ นักรบผู้แข็งแกร่งทุกคน

 

ขอบคุณข้อมูล :@AmethystMagissa 

Related posts

© Copyright 2018, All Rights Reserved