Trending News

Blog Post

"เพื่อไทย" ยกเคส "หุ้น MORE" เสียหายทั้งระบบตลาดหุ้น ลดความเชื่อมั่น กลต.
การเมือง

"เพื่อไทย" ยกเคส "หุ้น MORE" เสียหายทั้งระบบตลาดหุ้น ลดความเชื่อมั่น กลต. 

"ดร.เผ่าภูมิ" ติง "ตลาดหุ้นไทย" ไม่เคยแก้ไขปัญหาช่องโหวปั่นหุ้น ยกเคส "หุ้น MORE" ไม่เสียหายเฉพาะโบรกเกอร์ แต่ทั้งระบบ รวมถึงลดความเชื่อมั่น กลต.

จากกรณีตัวแทนบริษัทโบรกเกอร์รวม 11 บริษัท เข้าแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ให้ดำเนินคดีกับ "ผู้ซื้อหุ้น MORE" 1 คน และผู้ขายหุ้นอีกกว่า 20 คน หลังพบราคาปรับตัวสูงหลายเท่าตัว มีความผิดปกติในการซื้อขายหุ้นจนทำให้พบความเสียหายกว่า 4,500 ล้านบาท 

 

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้แบ่งได้ 3 ระดับ 

-ต้นน้ำ คือ ความจริงของตลาดหุ้นไทยที่เต็มไปด้วยช่องโหว่และโอกาสการปั่นหุ้น กฎเกณฑ์ที่ล้าหลังไม่ทันเกม หน่วยงานกำกับที่ไม่ทันการณ์
-กลางน้ำ คือ ความหละหลวมของโบรกเกอร์เรื่องหลักประกันและการปล่อยวงเงิน จนเกิดความเสียหาย 
-ปลายน้ำ คือ นักลงทุนรายย่อยกลายเป็นเหยื่อ
 

จริงอยู่ที่หัวใจของเรื่องนี้มักถูกชี้เป้าที่ความหละหลวมของโบรกเกอร์ในเรื่องหลักประกันและการปล่อยวงเงิน แต่เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากตลาดหุ้นไทยมีความสมบูรณ์เชิงโครงสร้าง ซึ่งความรับผิดชอบตรงนี้ก็ต้องชี้เป้าไปที่ หน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์

 

ไม่อยากให้มองแค่กรณี "หุ้น MORE" แต่อยากให้มอง ความซ้ำซากของปัญหาเดิมๆ เพียงแต่ถูกเปลี่ยนรูปแบบการฉ้อฉลไปเรื่อยๆ นั่น เพราะตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยช่องโหว่เชิงโครงสร้างที่ไม่เคยถูกปิด ไม่เคยถูกแก้ไข ทุกครั้งที่เจอการปั่นหุ้น หน่วยงานที่กำกับก็แก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ คือ ระงับการซื้อขาย แล้วค่อยตามไปตรวจสอบ และชี้แจงว่าได้ดำเนินการทุกขั้นตอนไปตามหลักเกณฑ์แล้ว แต่หลักเกณฑ์ที่ล้าหลัง การทำตามเกณฑ์ที่ล้าหลัง และแจงว่าได้ทำตามเกณฑ์เหล่านี้แล้วและจะถอดบทเรียนเพื่อป้องกันในคราวหน้า นี่อาจไม่ใช่คำตอบที่เพียงพอที่ประชาชนต้องการ

ความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างกรณี "หุ้น MORE" นั้น มันไม่ใช่แค่ความเสียหายของโบรกเกอร์อย่างที่พูดๆกัน แต่อยากชวนมองภาพใหญ่กว่า นั่นคือ ความเสียหายเชิงระบบต่อตลาดหุ้นไทย เพราะสิ่งที่ถูกทำลายไปคือสิ่งที่เรียกว่า ความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือต่อตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งมีราคาสูงจนประเมินค่าไม่ได้ เสียแล้วเสียเลย กอบกู้ไม่ได้ 

ยังไม่นับ บทบาทในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งมีความซับซ้อนสูงกว่า มีความไร้ตัวกลาง ซึ่งความสามารถและความรู้ความเข้าใจของหน่วยงานกำกับดูแลนั้นจะถูกตั้งคำถามมากขึ้นไปอีก

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย

Related posts

© Copyright 2018, All Rights Reserved