แห่เดา เป็นใครทำหัวใจ "มิว ศุภศิษฎ์" สีชมพู เคลียร์ชัดเรื่องงาน ให้แม่ดูแล 

"มิว ศุภศิษฏ์" เล่าเรื่อง มิวศุภศิษฎ์สตูดิโอ ที่มีข่าวแว่วมาว่าจะปิดตัวลง เพราะต้องแยกย้ายกันไป หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ได้คุณแม่และน้องสาวมาเป็นผู้จัดการส่วนตัว คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะยังไงต่อ เพราะมีการคุยกันมานานมาก และในทิศทางนี้น่าจะดีกับทุกคน "การเปลี่ยนแปลงย่อมดีเสมอ" 

ส่วนสาเหตุหลักๆ มิวบอกว่าก็คงเป็นทิศทางมนการทำงาน ที่ไม่ตรงกัน ที่เริ่มคนละทิศคนละทางเลยคิดว่าทำในสิ่งที่มีความสุขดีกว่า  แต่ก็ยังมีงานที่ทำต่อไปด้วยกัน 

มิว เล่าอีกว่า งานก็มีมาเรื่อยๆ ม๊าก็จะมีความน่ารัก เพราะดูแลมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้ซีเรียสนะครับ ในรูปแบบก็จะมีการเปลี่ยนถ่ายคนอยู่แล้ว เหมือนทำงานก็อยากย้ายงานไปที่อื่น ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย"

ส่วนเรื่องเพลง ก็ยังอยากทำอัลบั้มที่ 2 เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยกับโปรดิวเวอร์หลายคน ที่อยากใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปเพิ่มเติม เดี๋ยวคงได้ฟังกัน 

"เอาจริงๆ ม่าม๊า ก็จะดูหน้างาน แต่น้องจะมาช่วยดูแลเรื่องคิวต่างๆให้ด้วย ส่วนเรื่องสตูดิโอไม่มีผล ว่าปิดหรือไม่ปิดดี สุดท้ายก็ต้องจบที่ซีรีส์ออนแอร์อยู่แล้วครับ ต้องปรับตัวเยอะครับ ว่าสองสามปีที่ผ่านมา เราต้องผิดพลาดอะไรบ้าง และดูระบบใหม่ที่จะต้องทำขึ้นมาให้เหมาะมากขึ้น แล้วปัญหาหลักๆเรื่องสุขภาพ คงต้องดูแลตัวเองมากขึ้นมากขึ้น" 

มิวบอกด้วยว่า มีการคุยกันว่าจะแยกกับผู้จัดการ แต่มีหมอดูทักว่าจะได้แยกกันทำงาน "แต่ผมไม่บอกว่าใคร แต่ก็จริง บอกไม่ได้ เดี๋ยวเขาไม่คิวให้ผม"

ที่ผ่านมาเจ้าตัวยอมรับว่า นอกจากปัญหาเรื่องสุขภาพแล้ว ยังมีเรื่องจิตใจเข้ามาเกี่ยวคล่อง ถึงขั้นเข้าพบจิตแพทย์ ถ้าฝืนทำงานหนักเกิดไป ไม่เกิดปีสองปีร่างกายและจิตใจจะไม่ไหว ทำให้ต้องเลือกงานที่อยากทำจริงๆ ก่อนที่จะไม่ไหว เนื่องจากช่วงหนึ่งความสุขในการทำงานหายไป จึงตัดสินใจเดินเข้าพบจิตแพทย์ 

"คุณหมอให้หาเวลาพัก ทำอะไรไม่ได้ ต้องพักจริงๆ ก็มีช่วงนอนไม่หลับ แต่ไม่ถึงขั้นใช้ยานอนหลับ ปัจจุบันแฮปปี้ขึ้นเหมือนเดิม" งานนี้ก็ไม่รู้ว่าดีขึ้นเพราะมีคนดูแลหัวใจหรือเปล่า 

การงาน การเงิน ผ่านไป จะไม่ถามความรักก้ไม่ได้ ผู้สื่อข่าวเลยขอล้วงลึกหัวใจกันหน่อย ว่าตอนนี้ หนุ่มหล่อของเรา มีคนดุแลใจส่วนตัวแล้วหรือยัง 

"รู้สึกว่า หลายคนสงสัยเรื่องนี้ ไม่อยากโกหก ก็เลยบอกให้เคลียร์ๆไปเลย ก็อายุ  31 ก็ต้องมีบ้างเถอะ มันถึงเวลาต้องพูดละกัน ความจริงก็มีมาตลอดนั้นแหละ ก็เล่าไม่ได้หรือเปล่าหละ พูดได้แล้ว"

และ "ดีใจที่แฟนคลับเข้าใจ เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ในประเทศไทย ก็ต้องยอมรับ แต่รู้สึกว่าเป็นเรื่องทั่วไป พอเห็นแฟนคลับคอมเมนต์กัน ก็ดีใจมีแฟนคลับน่ารักขนาดนี้ หนักใจ ม่าม๊ายังไม่รู้เลย จะรู้ตอนสัมภาษณ์ตอนนี้แหละ แต่จะเปิดมากกว่านี้ไหม เราก็ฝ่านเดียวไม่ได้ เป็นเรื่องคนสองคนที่ตกลงกัน เราตกลงฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ถ้าเขายังรู้สึกไม่อยากเปิด ก็ยังไม่อยากบอกอะไรเขา" 

ทั้งนี้ ก่อนจบสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกถามว่า เป็นคนในหรือนอกวงการ คำตอบที่ได้คือ "คนนอกวงการประมาณนั้นครับ หม่าม๊าก็คงรู้แหละ แต่ก็คงไม่พูด ความรักก็มีความสุขดี อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง มีความสุขทุกวันสิ ชีวิตโอเค ความคลับน่ารัก ถ้าเราไม่ได้พูดออกมาก็ไม่เป็นไร ถึงเวลา ก้ไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่ได้เปิด ใครเห็นก็ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้ถามใหม่อีกรอบ"