เปิดเส้นทางชีวิต ผู้ว่าฯมุสลิมหญิงคนแรก "พาตีเมาะ สะดียามู" ผู้ว่าฯหญิงแกร่ง คนใหม่ แห่ง ปัตตานี กว่าจะมีวันนี้ แกร่งอย่างเดียว คงไม่พอ
นับเป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ วงการปกครองไทย ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และโยกย้ายข้าราชการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทนักบริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 37 ราย
โดยในจำนวน 37 ราย มีผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้รวมอยู่ด้วย 2 ราย 2 จังหวัด แต่ที่สร้างประวัติศาสตร์นั่นคือ การแต่งตั้งผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานีคนใหม่ ได้จารึกชื่อของ "พาตีเมาะ สะดียามู" เป็นผู้ว่าฯมุสลิมหญิงคนแรกของประเทศ
นางพาตีเมาะ สะดียามู เกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2508 ปัจจุบันอายุ 57 ปี พื้นเพเดิมอยู่ที่บ้านปีซัด หมู่ 1 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา รับราชการครั้งแรกเมื่อปี 2536 ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จนถึงปัจจุบันกว่า 29 ปี
เส้นทางชีวิตราชการ ของ พาตีเมาะ ทำหน้าที่มาแล้ว ทั้งใน จ.ระนอง จ.ยะลา และปัตตานี เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ก่อนจะมาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส จนได้ขยับขึ้นมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
การศึกษา
- จบประถมศึกษา ที่ โรงเรียนวัดลำใหม่
- จบมัธยมศึกษาตอนต้น ที่ ร.ร.พัฒนาวิทยา จ.ยะลา
- จบมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่ ร.ร.สาธิต ม.สงขลานครินทร์ จ.สงขลา
- จบปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ม.อ.)
- จบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาพัฒนาสังคม) สาขาการจัดการการพัฒนาสังคม คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
เส้นทางชีวิตของ "พาตีเมาะ" ผู้ว่าฯหญิงแกร่งคนแรก ไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นสตรีมุสลิมคนแรกของไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย นางพาตีเมาะ เคยให้สัมภาษณ์ว่า
ขณะดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ซึ่งอยู่นอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องมีความพยายาม ความอดทน ความมุ่งมั่น และความตั้งใจ เนื่องจากเป็นเด็กบ้านนอก และเป็นผู้หญิงมุสลีมะห์ อยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้ชีวิตมาในบริบทของสังคมพหุวัฒนธรรมมาโดยตลอด
วันที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้ว่าราชการ จ.พัทลุง หลายฝ่ายมองว่า อาจจะถูกกลั่นแกล้งนั้น แต่เธอกลับมองเป็นพลังบวก เพราะเห็นว่า การได้อยู่นอกพื้นที่ คือ โอกาส เป็นความท้าทาย บทพิสูจน์ที่เห็นเด่นชัดจากความทุ่มเทในการทำงานอย่างหนัก เธอได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ และคนพัทลุงต่างชื่นชมในการทำงาน ความผลสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้เป็นของคนจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนที่เธอพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทำได้
และบางส่วนในเนื้อหาของข้าราชการที่ร่วมยินดี กับตำแหน่ง ผู้ว่าฯมุสลิมหญิงคนแรก ได้ระบุไว้ว่า "เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์บนหน้าแผ่นดินไทยเรียบร้อยแล้ว สำหรับมุสลีมะห์ (หญิงมุสลิม) คนแรกของพี่น้องไทยมุสลิมในวงการนักปกครองระดับสูง (ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี) สังกัดกระทรวงมหาดไทย"
เพราะเธอ ถือเป็นข้าราชการจิตใจงาม ช่วยเหลือทุกคน จนเป็นที่รักที่รู้จักและคุ้นเคยของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนเป็นอย่างดี
ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง จ.ปัตตานี ที่ยืดเยื้อ นับเป็นความท้าทาย ที่ผู้ว่าฯหญิงแกร่ง คนนี้ จะต้องเผชิญ และดูเหมือนว่า เหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม ลอบวางระเบิด หัวจ่ายน้ำมัน บริเวณกลางปั๊มน้ำมัน ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา จะเป็นการต้อนรับก้าวแรกของผู้หญิงที่ชื่อ พาตีเมาะ สะดียามู
ขอบคุณที่มา สำนักข่าวอิศรา
Related posts
- เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
- อาลัย 'น้องเบนซ์' รร.ราชวินิตมัธยม เหยื่อ ถังดับเพลิง ระเบิด พบ ทำเพจดัง
- เรื่องย่อ 'ปิดเมืองล่า PATTAYA HEAT' หนังไทยฟอร์มยักษ์ ทุ่มทุนสร้าง 100 ล้าน
- ปรับโอน ‘เงินบำนาญชราภาพ’ ผู้ประกันตน ‘เดือนตรงเดือน’
- กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
Lastest
เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็น กดดันนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงเวลาแสดงสปิริต เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้นำ ควรคืน "บ้านพักหลวง" ชี้ด้วยบทบาทข้าราชการการเมืองไม่ควรนำเอาระเบียบกองทัพมาใช้ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ เป็นเรื่องของกติกาเดิม ถ้าจะแก้ไขต้องไปแก้กฎกระทรวง
กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือบริษัท อำนวยการดับเพลิง ร่วมระงับเหตุอัคคีภัย หรือ ไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง