คอ"บอลนอก"ล้างตารอ เฝ้าหน้าจอทีวีได้เลย "กกท."พระเอกขี่ม้าขาว ตามบัญชา"บิ๊กป้อม" สางปัญหาถ่ายสด"ฟุตบอลโลก 2022 " งบ 1.6 พันล้าน นัดผู้เกี่ยวข้องหารือจัดสรรการถ่ายทอดสด ด้านกสทช. ย้ำผู้ที่อยู่ในข่ายได้ถ่ายสด นำโดยทีวีกองทัพบก และโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
ภารกิจของ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมอบหมายให้ "กกท." เป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้มีการถ่ายทอดสด"ฟุตบอลโลก2022" มีความก้าวหน้าอย่างน่าสนใจ โดยเป็นที่แน่นอนแล้วว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก ที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน ไปสิ้นจนถึง วันอาทิตย์ ที่ 18 ธันวาคม จะมีการถ่ายทอดสดในประเทศไทย แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีความคลุมเครือกับเรื่องของเงินลงทุน ในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท. ) รับมอบภารกิจ ผลักดันให้มีการถ่ายทอดสด "ฟุตบอลโลก2022" ตั้งแต่ วันพฤหัสที่ 27 ตุลาคม จากที่ประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คณะกรรม ในการประชุมซึ่งมีขึ้นที่ ที่ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
โดยขณะนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ให้แนวทางกับ กกท. ในการประสานงานกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชน สามารถเข้าถึงการรับชมการถ่ายทอดสด"ฟุตบอลโลก 2022" ซึ่งการแข่งขัน จะมีขึ้นที่ประเทศกาตาร์ ระหว่าง 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม แนวทางความดังกล่าว ส่งผลให้กกท. ต้องเข้ามารับหน้าที่ เนื่องจากไม่มีท่าทีใด ๆ จากภาคเอกชนในเรื่องนี้
ต่อการที่จะซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลโลกมาแพร่ภาพ ผ่านสถานีโทรทัศน์ ด้วยข้อจำกัด ทั้งกฏเกณฑ์ที่มาจากภาครัฐเอง ในการแพร่ภาพ และการบริหารสิทธิประโยชน์ทางธุรกิจ กกท. จึงทำหน้าที่ดำเนินการเรื่องนี้ เรื่อยมาโดยได้รับการสนับสนุน งบประมาณจำนวน 600 ล้านบาท จาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ "กสทช."
ที่จะนำมาใช้จ่าย เพื่อเป็นค่าซื้อลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก โดยเบื้องต้นราคาที่ กกท. ได้รับมาจากตัวแทน ฟีฟ่าคือ 1,600 ล้านบาท ซึ่งส่วนต่างที่เหลือ กกท. ใช้วิธีการระดมทุนจากองค์กรธุรกิจภาคเอกชน อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า กกท.ใช้งบประมาณ เพื่อการนี้เท่าไหร่ในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด รวมทั้งการรับชม จะครบทุก 64 นัด หรือไม่
สำหรับความเคลื่อนไหวที่เป็นการบ่งชี้ ว่าจะมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เป็นที่แน่นอนแล้วก็คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เชิญผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและรับฟังเงื่อนไขในการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ การสนับสนุนการถ่ายทอดสด ที่ กกท. กำหนด และ ตามเงื่อนไขที่ตกลง กับ FIFA ในการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยการประชุมจะมีขึ้น ในวันนี้ (พุธที่ 16) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท.
ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช. ได้เข้าไป สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เป็นไปตามมติที่ประชุม กสทช. ซึ่งเห็นชอบ ให้สนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณไม่เกิน 600 ล้านบาท
ในขั้นตอนกกท. ต้องลงนามในสัญญาการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) ปี 2022 กับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ให้แล้วเสร็จ จึงสามารถขอรับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์
ขณะเดียวกัน ในข้อตกลงความร่วมมือนี้ กกท. ต้องดำเนินการร่วมกับสถานีโทรทัศน์กองทัพบกและโทรทัศน์ รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในการถ่ายทอดสดและการจัดสรรโปรแกรมการแข่งขันให้กับผู้รับใบอนุญาตในกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์
"การเข้ามาสนับสนุนค่าใช้จ่ายการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ด้อยโอกาส สามารถเข้าถึงและรับชมรายการโทรทัศน์ที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ผ่านบริการในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ทุกประเภทที่อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงาน กสทช. และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกภาคส่วน ให้สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก สนับสนุนให้เกิดประโยชน์ต่อภาคสังคมและ ภาคเศรษฐกิจ" ไตรรัตน์ กล่าว
Related posts
- เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
- อาลัย 'น้องเบนซ์' รร.ราชวินิตมัธยม เหยื่อ ถังดับเพลิง ระเบิด พบ ทำเพจดัง
- เรื่องย่อ 'ปิดเมืองล่า PATTAYA HEAT' หนังไทยฟอร์มยักษ์ ทุ่มทุนสร้าง 100 ล้าน
- ปรับโอน ‘เงินบำนาญชราภาพ’ ผู้ประกันตน ‘เดือนตรงเดือน’
- กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
Lastest
เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็น กดดันนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงเวลาแสดงสปิริต เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้นำ ควรคืน "บ้านพักหลวง" ชี้ด้วยบทบาทข้าราชการการเมืองไม่ควรนำเอาระเบียบกองทัพมาใช้ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ เป็นเรื่องของกติกาเดิม ถ้าจะแก้ไขต้องไปแก้กฎกระทรวง
กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือบริษัท อำนวยการดับเพลิง ร่วมระงับเหตุอัคคีภัย หรือ ไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง