ตำรวจนำตัว “ไอ้คลั่ง” ฆ่าฟันคอผู้ใหญ่บ้านดับ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตโกรธแค้น เข้าไปกระโดดถีบ “ไอ้คลั่ง” ด้านลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ตะโกนถาม “มึงฆ่ากูทำไม” เลี้ยงเสียข้าวสุก
จากกรณีนายคมสัน พันธุ์พรหม อายุ 32 ปี ชาวบ้าน บ้านเหล่าสวนกล้วย ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี เกิดอาการคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาตู้ควบคุมเสารับส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ที่ตั้งอยู่บริเวณหลังบ้าน นายคมสัน
ต่อมานายไสวอาจหาญ อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้าน นำถังน้ำไปดับ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อนายคมสัน ถือมีดสปาต้า ง้างฟันเข้าที่บริเวณท้ายทอยของนายไสว จนเสียชีวิต
ต่อมาถูกตำรวจ สภ.กู่แก้ว เข้าจับกุม พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา คือ พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ ฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้า และเสพยาเสพติด
ล่าสุด วันนี้ ( 7 พ.ย.65 ) ตำรวจ สภ.กู่แก้ว นำตัวนายคมสันต์ พันธุ์พรม ผู้ก่อเหตุไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี โดยมีญาติทั้ง2 ฝ่าย เดินทางไปที่ สภ.กู่แก้ว ซึ่งฝั่งญาติของนายคมสันต์ ผู้ก่อเหตุ เตรียมเงิน 2,000 บาทและข้าวเหนียวหมูปิ้งมามอบให้นายคมสันต์ พร้อมกับได้มีการพูดคุยกัน โดยนายคมสันต์ ได้ฝากให้ญาติดูแลบ้าน ดูแลแม่ที่ป่วย และไก่ชนที่บ้านด้วย
ด้านญาติของ นายคมสันต์ เชื่อว่า หลานไม่ใช่คนที่จิตใจอัมหิต เพราะตั้งแต่เด็กเป็นคนนิสัยดี แต่ยอมรับว่าสาเหตุอาจมาจากการเสพยาเสพติด พร้อมอยากให้ญาติผู้เสียชีวิตอโหสิกรรมให้ด้วย
แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถเพื่อนำไปฝากขังนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เมื่อญาติของ ผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต และลูกชาย เดินทางมาถึงโรงพัก เพื่อดูหน้าผู้ต้องหาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำตัวไปฝากขัง
ขณะนั้นเองมีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติผู้เสียชีวิต กระโดดถีบ นายคมสันต์ ผู้ก่อเหตุ ต่อหน้าตำรวจที่ควบคุมตัว จากนั้นก็มีญาติๆอีกหลายคนพยายามที่จะเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ ด้วยความโกรธแค้น จนตำรวจต้องกันญาติออกอย่างชุลมุน
ด้านลูกชายผู้เสียชีวิต ได้แต่ตะโกนถามคนร้ายว่า “มึงฆ่าพ่อกูทำไม มึงไม่มีข้าวกินก็ไปขอข้าวพ่อกูกิน”
นอกจากนี้ นางละไม หนางสองห้อง อายุ 40 ปี ลูกบ้านของผู้เสียชีวิต ได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว ให้กับผู้ใหญ่บ้านว่า ที่มีข่าวว่า ผู้ใหญ่บ้านเป็นหนี้นายคมสันต์ 40,000 บาทนั้น ไม่เป็นความจริง เรื่องของเรื่อง คือตัวเองซื้อที่ดินจากนายคมสันต์ ประมาณ 1 ไร่ ไร่ละ2 แสนบาท และตกลงซื้อขายมัดจำก่อน 40,000 บาท โดยให้นายสมัย ผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต เซ็นต์ชื่อเป็นพยาน โดยไดซื้อขายกันเมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา
หลังจาก ผู้ใหญ่บ้าน เซ็นต์เป็นพยานเสร็จเรียบร้อย จากนั้นนายคมสันต์ก็มีการไปขอเงินจากนางละไม ครั้งละ 20,000 บาท บ้าง10,000 บาทบ้าง รวมเป็นเงิน95,000 บาท ทั้งที่ยังไม่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จนนายคมสันต์ก็ได้ก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้นก่อน จึงมาขอความเป็นธรรมให้ ผู้ใหญ่บ้านว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนี้สินกับนายคมสันต์แต่อย่างใด ผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนดี
ด้าน พ.ต.อ.พีระวุฒิ สุวรรณประสิทธิ์ ผกก.สภ.กู่แก้ว ได้บอกกับญาติของผู้เสียชีวิตว่า นายคมสันต์ได้รับโทษหนักแน่นอน 3 คดี ถึงขั้นประหารชีวิต คือ ฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร และเสพยาเสพติด
เพิ่มเพื่อน Line https://lin.ee/qw9UHd2
Related posts
- เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
- อาลัย 'น้องเบนซ์' รร.ราชวินิตมัธยม เหยื่อ ถังดับเพลิง ระเบิด พบ ทำเพจดัง
- เรื่องย่อ 'ปิดเมืองล่า PATTAYA HEAT' หนังไทยฟอร์มยักษ์ ทุ่มทุนสร้าง 100 ล้าน
- ปรับโอน ‘เงินบำนาญชราภาพ’ ผู้ประกันตน ‘เดือนตรงเดือน’
- กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
Lastest
เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็น กดดันนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงเวลาแสดงสปิริต เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้นำ ควรคืน "บ้านพักหลวง" ชี้ด้วยบทบาทข้าราชการการเมืองไม่ควรนำเอาระเบียบกองทัพมาใช้ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ เป็นเรื่องของกติกาเดิม ถ้าจะแก้ไขต้องไปแก้กฎกระทรวง
กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือบริษัท อำนวยการดับเพลิง ร่วมระงับเหตุอัคคีภัย หรือ ไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง