Trending News

Blog Post

"บิ๊กต่อ" ควง "บิ๊กโจ๊ก" ตรวจสถานบันเทิง ลั่น! เตือนครั้งที่ 1 ไม่มีครั้งที่ 2
อาชญากรรม

"บิ๊กต่อ" ควง "บิ๊กโจ๊ก" ตรวจสถานบันเทิง ลั่น! เตือนครั้งที่ 1 ไม่มีครั้งที่ 2 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ควงแขน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นำกำลัง"ตำรวจ" ปูพรมตรวจสถานบันเทิง 6 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ ย้ำ "ยาเสพติด-อาวุธ-เด็ก"ห้ามเข้า ลั่น! เตือนครั้งที่ 1 ไม่มีครั้งที่ 2

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 พ.ย.65 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นำกำลังชุดปฏิบัติการ บช.น. ,บช.สอท. ,บช.ปส. ,บช.สตม. ,บช.ทท.และ กองพิสูจน์หลักฐาน กว่า 200 นาย เข้าตรวจค้นสถานบันเทิง 6 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยซึ่งเชื่อว่าเป็นของ"นายทุนต่างชาติ" หรือ มีตัวแทนทำธุรกิจแทน"นอมินี" 

 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการครั้งนี้ ได้บูรณาการร่วมกันในส่วนงานป้องกันปราบปรามและงานสืบสวน โดยลงพื้นที่ 6 จุดทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งใน 6 จุด จะมีสถานประกอบการบางแห่ง ที่ทางชุดทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานสืบสวน ขยายผลมาจากสถานประกอบการที่พัทยา ที่มี"นายทุนจีน"ร่วม โดยการตรวจสอบจะเน้นหนักไปที่ยาเสพติด อาวุธปืน และเด็ก ซึ่งหากพบว่าสถานประกอบการรายใดฝ่าฝืนต้องเพิกถอนใบอนุญาตสั่งปิด 5 ปี ซี่งเรื่องนี้ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เน้นย้ำในการจัดระเบียบสถานประกอบการ 
ซึ่งการที่สถานประกอบการปล่อยให้มียาเสพติด อาวุธปืน และเด็ก ทางสถานประกอบการต้องรับผิดชอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

"บิ๊กต่อ" ควง "บิ๊กโจ๊ก" ตรวจสถานบันเทิง ลั่น! เตือนครั้งที่ 1 ไม่มีครั้งที่ 2

"งานป้องกันและงานสืบสวนจะทำงานร่วมกัน เพื่อคุมเข้มจัดระเบียบสถานบันเทิง ที่อาจเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่เป็นปัญหาคือการที่มีนายทุนต่างชาติ เข้ามาประกอบธุรกิจที่บ้านเราและมามีอิทธิพลเป็นมาเฟีย ไม่เฉพาะแต่คนจีน แต่มีอีกหลายแก๊งที่เรากำลังสืบ จะเห็นได้ว่าเรามีการทำงานในหลายภาคส่วน มีตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรต่าง ๆ บูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานเพื่อที่จะตัดวงจรไม่ให้มีมาเฟียต่างชาติมาใหญ่ในบ้านเรา" พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าว 

"บิ๊กต่อ" ควง "บิ๊กโจ๊ก" ตรวจสถานบันเทิง ลั่น! เตือนครั้งที่ 1 ไม่มีครั้งที่ 2 "บิ๊กต่อ" ควง "บิ๊กโจ๊ก" ตรวจสถานบันเทิง ลั่น! เตือนครั้งที่ 1 ไม่มีครั้งที่ 2

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต่อไปจากนี้ท้องที่จะต้องลงมา ซึ่งทางตนและ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงมาตรวจสอบด้วยตนเอง ถ้าไม่สานต่อหากตรวจเจอท้องที่ต้องรับผิดชอบ เพราะถือว่าเป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง จะไม่มีครั้งที่สอง ซึ่งถ้าเจอสิ่งผิดกฎหมายต้องถูกปิดแน่ และหากแอบกลับมาเปิดอีกก็มีโทษจำคุก 1 ปี ซึ่งจะบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ใช้ยาแรงเพราะทาง ผบ.ตร.สั่งมาแล้ว ซึ่งได้ให้แนวทางการตรวจสอบกับสถานบันเทิงกับท้องที่แล้ว  อย่างไรก็ตามก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับสถานบันเทิงผู้ประกอบการด้วย ในกรณีที่พบนักเที่ยวปัสสาวะม่วง แต่ไม่พบว่ามีการขายยาเสพติดในสถานบันเทิง ก็ตัองมาสืบว่ามีการเสพยาจากไหนเพื่อที่จะดำเนินการ ส่วนนี้ก็ว่าไปตามข้อเท็จจริงถ้าพบในสถานบันเทิงก็ต้องใช้ยาแรง 

 

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การตรวจสอบประกอบการครั้งนี้ไม่ได้ เพ่งเล็งไปที่กลุ่มที่มีนายทุนจีนเท่านั้น ได้ตรวจสอบสถานประกอบการที่มีเจ้าของเป็นคนไทยเช่นกัน ซึ่งยอมรับว่าในการตรวจสอบก็มีบางส่วนที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้ข้อมูลมา ซึ่งในทางสืบสวนคดีที่มีนายทุนจีนเข้ามากระทำผิดกฎหมาย ทั้งเปิดผับโดยการนำยาเสพติดมาใช้มาจำหน่าย ผับศูนย์เหรียญต่าง ๆ ยืนยันว่าตอนนี้ทางชุดสืบสวนมีข้อมูลครบแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการขออำนาจศาลออกหมายจับดำเนินคดีภายในสัปดาห์นี้

Related posts

© Copyright 2018, All Rights Reserved