"มาร์ค วีนส์" นักกินระดับโลก ผู้ตกหลุมรักอาหารไทย

ผู้สื่อข่าว, 2 years ago 102

มาร์ค วีนส์ เป็นทั้งนักเดินทาง นักเขียน บล็อกเกอร์ ยูทูเบอร์ และเป็นนักกินผู้ตกหลุมรักอาหารและวัฒนธรรมการกิน โดยเฉพาะอาหารไทย

มาร์ค วีนส์ เป็นชาวอเมริกัน เป็นเจ้าของเว็บไซต์ Migrationology.com และ Eatingthaifood.com ที่มีผู้อ่านจากทั่วโลกเขามีผู้ติดตามใน YouTube กว่า 9 ล้านคน ในเพจเฟซบุ๊ก 5.2 ล้านคน และในอินสตาแกรม 1.6 ล้านคน ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา มาร์คทำคลิปวิดีโอแนะนำอาหารไทยอวดชาวโลกไปหลายร้อยคลิป แต่ละคลิปกินของเขามียอดวิวหลักแสนไปจนถึงหลายล้าน ไม่ใช่แค่อาหารไทย แต่มาร์คสนใจเรื่องวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในอาหาร ทำให้เขาออกเดินทางไปค้นหา สัมผัส และกินอาหารแต่ละจานในแต่ละพื้นที่ของโลก

มาร์ค เริ่มต้นเล่าเรื่องราวการกินและการเดินทางของเขาลงบนอินเทอร์เน็ตเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว เขาตั้งเป้าหมายไว้ว่ามันจะต้องเติบโตงอกเงยเป็นเงินที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตได้ ทำให้ทุกวันนี้มาร์คมีอาชีพเป็น Full-time Travel Eater ที่มีรายได้จากการทำสิ่งที่เขารัก มาร์ค วีนส์ มาพร้อมวลีเด็ด ‘ไม่เผ็ดไม่กิน’ และทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นยูทูบเบอร์ขวัญใจนักชิม โดย มาร์ค วีนส์ ได้มาเยือนเมืองไทยครั้งแรกเมื่อกว่า 12 ปีก่อนซึ่งเขายอมรับว่า เกิดอาการ ‘สติแตก’ เมื่อได้เห็นร้านอาหารละลานตาตามถนนหนทางทั่วกรุงเทพฯ ที่เขาบอกว่า

มาร์ค วีนส์

“ผมจำได้ว่ารู้สึกตื่นเต้นกับทุกอย่างที่เห็น มันน่าประทับใจมาก เหมือนกับว่าทุกประสาทสัมผัสถูกปลุกเร้าตลอดเวลาผมทึ่งมากที่เห็นร้านอาหารหลากหลายเต็มไปหมดซึ่งเราสามารถแวะร้านนี้ออกร้านนั้นและกินอาหารได้แบบไม่ซ้ำกันเลย รสชาติอาหารก็กลมกล่อม เข้มข้น ทำให้ผมรู้สึกว่ากรุงเทพฯ แตกต่างจากที่อื่น”

ในครั้งนั้น มาร์คเข้ามาในเมืองไทยในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษ แต่ต่อมาไม่นานเขาก็รู้ว่างานนั้นไม่เหมาะกับเขาเลยหันไปเขียนบทความเกี่ยวกับอาหารทั่วกรุงเทพฯ ในที่สุด เขากลายเป็นยูทูบเบอร์สายรีวิวอาหารที่มีคนติดตามมากที่สุดในโลก ผ่านช่องทาง Mark Wiens มาร์คเดินทางลัดเลาะเสาะหาอาหารไทยไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ มีเพื่อนร่วมผจญภัยและตากล้องประจำตัวคือ หญิง – จารุวรรณ วีนส์ ภรรยาชาวไทยของเขา

“มื้ออาหารที่ผมประทับใจไม่ลืมคือตอนที่เดินทางไปปากีสถานกับเพื่อนของผมชื่ออาลี เขาเตรียมมื้อค่ำเพื่อต้อนรับผมในบ้านอายุ 400 ปี บนเทือกเขาหิมาลัยท่ามกลางอากาศเย็นสดชื่น เจ้าของบ้านพากันเล่นดนตรีอย่างสนุกสนาน และผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่มีคุณยายวัย 100 ปี มาร่วมวงรับประทานอาหารพร้อมกับเล่าเรื่องราวเก่าๆ ให้ฟัง ทำให้ผมเชื่อว่าคนที่เรารับประทานอาหารด้วยมีส่วนทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้นหลายเท่าตัว”

มาร์คได้สัมผัสประสบการณ์คล้ายกันนั้นในเมืองไทยเช่นกัน นอกจากนี้ เขายังถือเป็นชาวต่างชาติคนแรกๆ ที่สามารถคว้าที่นั่งรับประทานอาหารมื้อพิเศษสุด ณ เรือนจรุง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารไทยแท้แต่ดั้งเดิมที่ต้องจองคิวล่วงหน้านาน 6-8 เดือน และแม้แต่คนไทยเองก็ใช่ว่าจะจองได้

และดูเหมือนว่า การนำเสนออาหารไทยพื้นถิ่นรสชาติจัดจ้านในแบบที่คนไทยกินในชีวิตประจำวันซึ่งชาวต่างชาติส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อนจะยิ่งทำให้เขาสามารถขยายฐานกลุ่มแฟนคลับใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น มาร์คยังทำให้ผู้ชมทั้งไทยและเทศทึ่งกับภูมิต้านทานอาหารรสชาติเผ็ดร้อนของเขาที่เหนือกว่ามาตรฐานชาวต่างชาติทั่วไปโดยเขาสามารถกินเมนูส้มตำใส่พริก 30 เม็ด ซึ่งถือเป็นเมนูปราบเซียนคนกินเผ็ดได้อย่างหน้าตาเฉย

“ความหลากหลายและรสชาติจัดจ้านทำให้อาหารไทยแตกต่างจากอาหารชาติอื่น ยิ่งได้ทำความรู้จักกับอาหารไทยมากเท่าใด ผมก็รู้ว่าอาหารไทยมีความโดดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละภาค อันที่จริง คำว่าอาหารไทยนั้นครอบคลุมอาหารพื้นถิ่นของทุกภาค ไม่ว่าจะเป็นอาหารอีสานที่ได้รับอิทธิพลจากลาว หรืออาหารใต้ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมมาเลเซียและอินเดีย แม้กระทั่งอาหารภาคกลางที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารชาววัง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเสน่ห์ของอาหารไทยที่หาอาหารชาติอื่นเทียบได้ยาก”

มาร์ค วีนส์