"ผู้ว่าฯ เมืองกรุงเก่า" จับมือเทศบาลเมืองพระนครศรีอยุธยา กู้คืนพื้นที่น้ำท่วม สร้างคันกั้นน้ำก่อนสูบออก ช่วย 2,500 ครัวเรือน หลังระดับน้ำ เจ้าพระยา เริ่มลดลง คาด แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
26 ต.ค.2565 สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันลงพื้นที่คลองหงส์ เขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายกฤษณ์ เถี่ยรมิตรภาพ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นำลงพื้นที่พร้อมนำเสนอข้อมูลสถานการณ์น้ำ เพื่อตรวจพื้นที่คันกั้นน้ำคลองหงส์ หลังจากระดับน้ำในคลองเมืองที่รับน้ำต่อจากแม่น้ำเจ้าพระยาลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในคลองหงส์ลดลง และเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจำนวน 2,500 ครัวเรือน
นายนิวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้พบว่าสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มดีขึ้น และเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้งในเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาและพื้นที่ตำบลคลองสระบัว ให้พ้นจากการถูกน้ำท่วมเร็วขึ้น จึงได้ประสานความร่วมมือกับทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นำกากมิกซ์มากั้นคันตลอดความยาว 650 เมตร และใช้รถสูบน้ำกำลังสูงที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ สูบน้ำออกจากพื้นที่ลงคลองเมือง เพื่อช่วยเหลือพี่น้อง 6 ชุมชน รวม 2,500 ครัวเรือน ให้พ้นจากภาวะน้ำท่วมเร็วขึ้น โดยจะเริ่มดำเนินการภายในวันศุกร์ คาดว่าใช้เวลาดำเนินการ 3 วันจะสามารถกู้คืนพื้นที่ให้กับประชาชนได้
ด้านกรมชลประทาน สรุปการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
จ.อ่างทอง
– ลงพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จากสำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ในเขตพื้นที่ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
จ.ชัยนาท
– ลงพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 7 ต.เจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ได้รับผลกระทบจำนวน 318 ครัวเรือน และหมู่ 5 ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ได้รับผลกระทบจำนวน 220 ครัวเรือนโดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 4 ท่อ ปริมาณน้ำ 0.5 cms ซึ่งจะติดตั้งเพิ่มเติมตามจุดที่ประสบอุทกภัยและน้ำท่วมขังในพื้นที่ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการระบาย ลดระดับน้ำที่ท่วมขัง ป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำเน่าเสียให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
จ.พระนครศรีอยุธยา
– ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยได้นำน้ำดื่มไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัย เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำน้อยและคลองบางปลากดเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชน ที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณริมตลิ่งในพื้นที่ ตำบลบ้านแค อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จ.ลพบุรี
– ลงพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 2 เครื่อง ณ พื้นที่น้ำท่วมขังในเขตบ้านไผ่ขวาง ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี ปัจจุบัน สถานการณ์ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
จ.นครศรีธรรมราช
– นำรถแแบคโฮบูมยาวเพื่อช่วยระบายน้ำบริเวณสวนปาล์มน้ำมัน จำนวน 800 ไร่ ในพื้นที่ลุ่ม (ต่ำกว่าระดับดินเดิมของบ่อยืม) เข้าขุดลอกคูน้ำ (บ่อยืม) คลองส่งน้ำ ฝายคลองท่าทน เพื่อช่วยระบายน้ำบริเวณสวนปาล์มน้ำมัน จำนวน 800 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม (ต่ำกว่าระดับดินเดิมของบ่อยืม) ในพื้นที่ ต.เสาเภา อ.สิชล จ.จังหวัดนครศรีธรรมราช
จ.สิงห์บุรี
– ลงพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลบางกระบือ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล จ.พระนครศรีอยุธยา
ติดตามกระแสรายวัน คมชัดลึก ได้ที่
Website – www.komchadluek.net
Twitter – https://twitter.com/Kom_chad_luek
Related posts
- เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
- อาลัย 'น้องเบนซ์' รร.ราชวินิตมัธยม เหยื่อ ถังดับเพลิง ระเบิด พบ ทำเพจดัง
- เรื่องย่อ 'ปิดเมืองล่า PATTAYA HEAT' หนังไทยฟอร์มยักษ์ ทุ่มทุนสร้าง 100 ล้าน
- ปรับโอน ‘เงินบำนาญชราภาพ’ ผู้ประกันตน ‘เดือนตรงเดือน’
- กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
Lastest
เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็น กดดันนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงเวลาแสดงสปิริต เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้นำ ควรคืน "บ้านพักหลวง" ชี้ด้วยบทบาทข้าราชการการเมืองไม่ควรนำเอาระเบียบกองทัพมาใช้ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ เป็นเรื่องของกติกาเดิม ถ้าจะแก้ไขต้องไปแก้กฎกระทรวง
กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือบริษัท อำนวยการดับเพลิง ร่วมระงับเหตุอัคคีภัย หรือ ไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง