Trending News

Blog Post

หนองบัวสะอื้น “ทักษิณ” ปราบยาบ้า ส่องบทเรียน มีบวกมีลบ
ท่องยุทธภพ

หนองบัวสะอื้น “ทักษิณ” ปราบยาบ้า ส่องบทเรียน มีบวกมีลบ 

อันเนื่องจากโศกนาฎกรรมหนองบัวลำภู “ทักษิณ” เคยประกาศนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด สถานการณ์ยาบ้าลดลง แต่ก็มีคดีฆาตกรรมปริศนาเกิดขึ้นมากมาย

ยาบ้าอีกแล้ว “ทักษิณ” ชื่อนี้หลายคนนึกถึงรัฐบาลไทยรักไทย และนโยบายประกาศสงครามกับยาเสพติด ที่มีการพูดถึงทั้งด้านบวกด้านลบ

 

อันเนื่องจากโศกนาฎกรรมหนองบัวลำภู “ทักษิณ” ก็เคยพูดมาก่อนหน้านี้ผ่านแคร์คลับเฮาส์ เรื่องยาบ้าระบาดหนัก 

 

จากเหตุการณ์เศร้าสลดที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู มีผู้เสียชีวิต 38 ราย โดยผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจเสพยาบ้าจนหลอน จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดในวันนี้

 

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2565 ทักษิณ ชินวัตร พูดในรายการแคร์คลับเฮาส์ตอนหนึ่งว่า “ถ้าตอนนี้ผมยังอยู่ ยาเสพติดคงไม่ราคาถูกขนาดนี้..ประเทศยิ่งจน ยาเสพติดยิ่งเยอะ วันนี้ยาเสพติดขายถูกมาก ต้นทุนต่ำเหลือเม็ดละ 20 บาท สมัยผมขายเม็ดละ 300-400 บาทนู้น เพราะรัฐบาลเราเอาจริงและเอาอยู่ แต่ตอนนี้กลับปล่อยให้ยาเสพติดเกลื่อนเมือง ถ้าวันนี้ประเทศเป็นประชาธิปไตย รับรองว่านโยบายปราบปรามยาเสพติดจะเป็นนโยบายยืนพื้นเลย”

 

ดังนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงตั้งโต๊ะแถลงว่า ขอประกาศฟื้นนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทย 

 

เดือน ก.พ.2546 ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ได้ประกาศสงครามกับยาเสพติด และยกให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมสั่งการให้แต่ละจังหวัดจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง และกำหนดเป้าหมายลดผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ได้ 100% ภายใน 3 เดือน(ก.พ.-เม.ย. 2546)

 

ทักษิณได้เสนอเงินรางวัลแก่ตำรวจ และข้าราชการส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ขจัดผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อผ่านไป 6 เดือน ทักษิณจึงประกาศชัยชนะในการขจัดยาเสพติดเกือบหมดประเทศ

 

 

 

 

 

 วันที่ทักษิณ ประกาศชัยชนะในการทำสงครามปราบยาเสพติด ปี 2546

 

 

‘ตาต่อตาฟันต่อฟัน’

คนไทยจำนวนไม่น้อยยังเพรียกหา “ทักษิณ” ให้ปราบยาบ้าเหมือนสมัยรัฐบาลไทยรักไทย เพราะมาตรการเฉียบขาด ทำให้ผู้ค้ารายย่อยวางมือ และหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดเผ่นหนีออกนอกประเทศ

 

ปีที่แล้ว สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า ได้นำเสนอรายงานพิเศษว่าด้วยเรื่องการปราบยาเสพติด ตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ จนถึงรัฐบาลประยุทธ์ โดยอ้างอิงข้อมูลจากผลการดำเนินงานปราบปรามยาเสพติดในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา 

 

สมัยรัฐบาลทักษิณ สถานการณ์ยาเสพติดในปีงบประมาณ 2547 ลดลงมาก ทั้งจำ นวนคดียาเสพติดลดลงมาเหลือ 35,213 คดี เปรียบเทียบกับปี 2546 คดียาเสพติดมียอดอยู่ที่ 101,848 คดี ลดลงถึง 65.43% อันเป็นผลมาจากนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด

 

ส่วนจำนวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดปีงบประมาณ 2547 ลดลงเหลือ 38,697 ราย เทียบปีก่อนลดลง 64.11% แต่ก็เป็นการลดลงมาได้แค่ปีเดียว จากนั้นปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดกลับมาทวีความรุนแรงต่อเนื่อง จนกระทั่งมาถึงสมัยของรัฐบาลประยุทธ์

 

 

 

‘ปริศนาฆาตกรรม’

แม้ “ทักษิณ” จะได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนในการทำสงครามกับยาเสพติด แต่อีกด้านหนึ่ง นักสิทธิมนุษยชนทั้งในและนอกประเทศ กลับส่งเสียงคัดค้านดังอึงมี่

ปี 2550 รัฐบาลสุรยุทธ์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์ การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) ที่มี คณิต ณ นคร เป็นประธาน 

 

ข้อมูลของ คตน.พบว่า นโยบายทำสงครามกับยาเสพติด แม้จะจับกุมผู้ เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้จำนวนมาก แต่ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากเช่นกัน 

 

คตน.รวบรวมคดีฆาตกรรมผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดว่า มีทั้งสิ้น 1,187 คดี มีผู้เสียชีวิต 1,370 คน ไม่รวมถึงคดีวิสามัญฆาตกรรมอีก 35 คดี มีผู้เสียชีวิต 41 คน

 

จวบจนถึงปัจจุบัน ตัวเลขผู้ต้องขังในคดียาเสพติดยังไม่ลดลง ทำให้เกิดคำถามถึงประสิทธิผลของการปราบปรามยาเสพติดด้วยวิธีรุนแรง รวมถึงการแก้ไขกฎหมายให้เข้มข้นขึ้น จะทำให้ปัญหาหมดไปจริงหรือไม่

 

เหนืออื่นใด พรรคเพื่อไทยประกาศปัดฝุ่นนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด นักสิทธิมนุษยชนก็กังวลว่าจะซ้ำรอยเดิม
 

 

คอลัมน์ … ท่องยุทธภพ       โดย … ขุนน้ำหมึก

 

 

ติดตามข่าวสาร คมชัดลึก อื่นๆ ได้ที่
Facebook – https://www.facebook.com/komchadluek
Twitter – https://twitter.com/Kom_chad_luek

 

 

Related posts

© Copyright 2018, All Rights Reserved