ตำรวจโคราช แจ้ง 4 ข้อหา เยาวชน วัย 15 "ซิ่งเก๋ง" ฝ่าไฟแดงชนบัณฑิตวิศวะ เสียชีวิต หลังดอดมอบตัว วานนี้ ก่อนนำตัวส่งสถานพินิจ ยืนยันตรวจไม่พบแอลกอฮอล์ในตัวคนขับ
4 ต.ค.2565 ความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุ เยาวชนชาย อายุ 15 ปี ขับรถยนต์หรู มากับเพื่อนรวม 3 คน ฝ่าสัญญาณไฟแดง บริเวณ สี่แยกมาบเอื้อง ถนนหน้ามหาวิทยาเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ประตู 1 ตัดกับถนนตัดใหม่ (หนองปิง ซอย 1) ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พุ่งชนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีลาโน่ สีแดง เลขทะเบียน 1 กธ 2639 นครสวรรค์ ทำให้ผุู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ คือ นายธนพล หรือเต้ แก้วมูล อายุ 24 ปี บัณฑิตป้ายแดง ดีกรี เกียรตินิยม ปริญญาตรี หลักสูตรวิศวกรรมโทรคมนาคม มทส.นครราชสีมา ซึ่งหลังจบการศึกษา ได้หารายได้พิเศษโดยเป็นพนักงานจ้างเหมาดูแลระบบเครือข่ายไอทีของโรงพยาบาล มทส. เสียชีวิตคาที่ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 22.10 น. วันที่ 30 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท ไพศาล ปันเร็ว สารวัตรสอบสวนเวรเจ้าของคดี สภ.โพธิ์กลาง ได้ประสานครอบครัวเยาวชนชายอายุ 15 ปี เพื่อนัดให้มาสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ แต่เยาวชนชาย ไม่สามารถเดินทางมาพบได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างสอบปลายภาค ด้านญาตินายธนพล หรือเต้ ได้นำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.นครสวรรค์ เตรียมพิธีฌาปนกิจในวันที่ 8 ตุลาคมนี้
ล่าสุด พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.โพธิ์กลาง เปิดเผยว่า ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามพยาน หลักฐานที่ปรากฏและต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากผู้ขับขี่เป็นเยาวชน ยืนยันหลังเกิดเหตุได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ไม่พบปริมาณในร่างกายแต่อย่างใด
ทั้งนี้การดูแลเยียวยาผู้เสียชีวิตได้แนะนำให้คู่กรณีเจรจาตกลงกันเอง สอบถามญาติของเยาวชนได้รับผิดชอบการจัดพิธีปลงศพเบื้องต้น 200,000 บาท แต่พ่อของนายธนพล หรือเต้ ปฏิเสธ ซึ่งอาจอยู่ในช่วงกำลังเสียใจเกรงจะมีผลต่อการดำเนินคดี ซึ่งการช่วยเหลืออื่น ๆ ของคู่กรณีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจบังคับ แต่ถ้ามีโอกาสได้คุยกันพนักงานสอบสวนชี้แจงทำความเข้าใจอาจตกลงกันได้
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ (3 ต.ค.2565) เยาวชนชาย วัย 15 ปี พร้อมด้วยผู้ปกครองได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อสอบสวนตามกระบวนการ โดยเบื้องต้นได้แจ้ง 4 ข้อกล่าวหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจร, ขับรถไม่มีใบอนุญาต, และขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
จากนั้นได้ควบคุมตัวเยาวชนส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา และถูกปล่อยตัวชั่วคราวหรืออย่างไร ก็แล้วแต่อำนาจของสถานพินิจ
พ.ต.อ.นาวิน ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำมาตลอด ว่าการทำงานต้องตรงไปตรงมา ทำตามระเบียบหน้าที่ โดยในเคสนี้ ได้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว ในส่วนการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุถึงแม้เป็นเยาวชน ก็ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามกรอบของกฎหมาย
ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาของคู่กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเพียงคนกลางในการนัดตกลงเจรจากัน แต่ไม่มีอำนาจไปบังคับให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจ่ายเงินเท่านั้นเท่านี้ได้ จะเข้าไปดูได้ในส่วนของการคุ้มครองของกรมธรรม์ว่าต้องจ่ายตาม จำนวนที่จะได้คือ 500,000 บาท แต่ในส่วนที่เกินกว่านั้นทางพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสามารถไปบังคับได้ ทางผู้ประสบเหตุสามารถไปฟ้องร้อง หรือนำเข้าไปในชั้นพิจารณาดีของศาลได้
พ.ต.อ.นาวิน ยืนยันอีกครั้งว่า กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้เข้าข้างใครอย่างเด็ดขาดถึงแม้ คนขับรถจะเป็นเยาวชน เราก็ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา
เกษม ชนาธินาถ ผู้สื่อข่าว จ.นครราชสีมา
ติดตามกระแสรายวัน คมชัดลึก ได้ที่
Website – www.komchadluek.net
Twitter – https://twitter.com/Kom_chad_luek
Related posts
- เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
- อาลัย 'น้องเบนซ์' รร.ราชวินิตมัธยม เหยื่อ ถังดับเพลิง ระเบิด พบ ทำเพจดัง
- เรื่องย่อ 'ปิดเมืองล่า PATTAYA HEAT' หนังไทยฟอร์มยักษ์ ทุ่มทุนสร้าง 100 ล้าน
- ปรับโอน ‘เงินบำนาญชราภาพ’ ผู้ประกันตน ‘เดือนตรงเดือน’
- กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
Lastest
เพื่อไทย กระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ คืน 'บ้านพักหลวง' – ลุงตู่ แจงต้องแก้กฎกระทรวง
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็น กดดันนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงเวลาแสดงสปิริต เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้นำ ควรคืน "บ้านพักหลวง" ชี้ด้วยบทบาทข้าราชการการเมืองไม่ควรนำเอาระเบียบกองทัพมาใช้ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ เป็นเรื่องของกติกาเดิม ถ้าจะแก้ไขต้องไปแก้กฎกระทรวง
กนอ. เซ็นเอ็มโอยู รับมือเหตุไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือบริษัท อำนวยการดับเพลิง ร่วมระงับเหตุอัคคีภัย หรือ ไฟไหม้ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู-ลาดกระบัง