"ติดโควิด" เพิ่มความเสี่ยงเป็น โรค หลอดเลือดอุดตัน อันตรายกว่าที่คิด ควรเช็ค ร่างกาย และรู้จักตัวเองเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะสามารถป้องกันการเกิดภาวะหรือโรคต่างๆ ได้ก่อนจะสายเกินแก้
ในวันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวัน หลอดเลือดอุดตัน โลก หรือ World Thrombosis Day (WTD) ที่จัดขึ้นพร้อมแคมเปญ Eyes Open to Thrombosis เพื่อสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับ หลอดเลือดอุดตัน ร่วมกันทั่วโลก เพราะประชากร 1 ใน 4 ทั่วโลก เสียชีวิตจาก หลอดเลือดอุดตัน ในแต่ละปี จาก 4 ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงคือ การรักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยโรคมะเร็ง "ติดโควิด" และปัจจัยด้านกายภาพ
ศ.นพ.พันธุ์เทพ อังชัยสุขศิริ สาขาวิชาโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งการอุบัติใหม่และกลับมาของเชื้อโรค การ "ติดโควิด" นำไปสู่การรักษาที่ส่งผลต่อระบบการทำงานในร่างกาย โดยเฉพาะการเกิด ลิ่มเลือด ที่จะไปชะลอการไหลเวียนของโลหิตในหลอดเลือด และนำมาสู่ภาวะ หลอดเลือดอุดตัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงได้ พบว่า 1 ใน 4 ของผู้คนทั่วโลก หรือราว 100,000 คนในแต่ละปีเสียชีวิตจากภาวะ หลอดเลือดอุดตัน
หลอดเลือดอุดตัน (Thrombosis) เป็นภาวะที่ลิ่มเลือดก่อตัวและไปอุดตันในหลอดเลือด จากการแข็งตัวของเลือดผิดปกติหรือผนังหลอดเลือดผิดปกติ สามารถเกิดได้ทั้งในหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ ซึ่งหากลิ่มเลือดที่อุดตันหลุดไปตามกระแสเลือด จะเป็นอันตรายต่อร่างกายและโรคอื่น ๆ ตามมา สำหรับในประเทศไทย ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับหลอดเลือดอุดตันในปอดพบว่า ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ป่วยประมาณปีละ 12,900-26,800 คน คิดเป็นอัตราผู้ป่วย 200-400 คนในประชากรหนึ่งล้านคน
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงต่อ หลอดเลือดอุดตัน สามารถแบ่งออกเป็น 4 สาเหตุหลัก ๆ ได้ดังนี้
- ปัจจัยการเกิดลิ่มเลือดจากการรักษาตัวในโรงพยาบาล กว่า 60% ของผู้ป่วยหลอดเลือดอุดตัน เกิดขึ้นระหว่างการพักรักษาตัว หรือผู้ที่มีบาดเจ็บบริเวณหลอดเลือดจากการผ่าตัด ซึ่งการพักฟื้นเป็นระยะเวลานานจะทำให้ผู้ป่วยลดการขยับตัวนำไปสู่การเกิดลิ่มเลือดได้ ทั้งนี้ ในระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลแพทย์จะป้องกันและรักษาด้วยการประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วย อาจมีการให้ยายาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือการใช้เครื่องช่วยให้เลือดที่ขาไหลเวียนดีขึ้น
- ปัจจัยการเกิดลิ่มเลือดจากโรคมะเร็ง สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งมีความเสี่ยงเกิดภาวะหลอดเลืออุดตันร้ายแรงสูงกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า โดยความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันจะขึ้นอยู่กับประเภทของมะเร็ง ระยะของโรคและวิธีการรักษา รวมถึงการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย
- ปัจจัยการเกิดลิ่มเลือดจากการ "ติดโควิด" พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะวิกฤตเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะลิ่มเลือดได้สูงกว่าบุคคลปกติ เนื่องจากผู้ป่วยจะมีการแข็งตัวของเลือดเพิ่มขึ้นประกอบกับการนอนพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่พักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) ควรขยับร่างกายสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด ทั้งนี้ วัคซีนโควิด-19 ได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่มีผลต่อการเกิดภาวะ หลอดเลือดอุดตัน
- ปัจจัยการเกิดลิ่มเลือดด้านกายภาพ หากมีบุคคลในครอบครัวเป็นหลอดเลือดอุดตันจะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยในเพศหญิง อายุ 20 – 40 ปี มีความเสี่ยงมากกว่าเพศชายจากการใช้ยาคุมกำเนิดและการตั้งครรภ์ กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี มีโอกาสทั้งเพศหญิงและเพศชาย และบุคคลที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมส่วนบุคคลด้วย หากพบว่ามีอาการเจ็บ มีรอยแดง ลักษณะอุ่น ๆ บริเวณน่องหรือต้นขา หรือมีอาการบวมของขา ควรพบแพทย์เพื่อประเมินภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน
การลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะ หลอดเลือดอุดตัน ได้ดีที่สุด คนทั่วไปสามารถทำได้ด้วยตัวเอง มี 3 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
- เปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยง ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยงภาวะหลอดเลือดอุดตันทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยง อาทิ การสูบบุหรี่ การนั่งเป็นเวลานาน ทั้งการนั่งทำงาน ขับรถ หรือการโดยสารเครื่องบินโดยอยู่ท่าเดิมเป็นระยะเวลานานกว่า 4 – 6 ชั่วโมง
- ขยับร่างกายและออกกำลังกาย การขยับบริหารกล้ามเนื้อหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหลอดเลือดอุดตันได้ง่ายและดีที่สุด เพราะจะกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถใช้วิธีง่าย ๆ และทำที่บ้านได้ อาทิ การลุกเดิน การหมุนข้อเท้า การยกเข่า การหมุนคอ บ่าและไหล่
- เช็คความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน หากมีอาการหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน เช่น มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับเลือด โรคหัวใจ หรือคนในครอบครัวเคยมีประวัติการรักษาหลอดเลือดอุดตัน สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง การรู้ล่วงหน้าจะช่วยให้ผู้ป่วยรับมือกับภาวะหรือโรคร้ายแรงที่จะตามมาได้ทันท่วงที
เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Youtube – https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday – https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8 สาขา Popular Vote https://newsth.asia/entertainment/524524