Trending News

Blog Post

ย้อนเส้นทาง 4นักเตะ ผันตัวเองสู่บทบาทผจก.ทีม-ผลงานไม่ธรรมดา
กีฬา

ย้อนเส้นทาง 4นักเตะ ผันตัวเองสู่บทบาทผจก.ทีม-ผลงานไม่ธรรมดา 

เปิดลิสต์ 4 นักเตะ ผันตัวเองสู่บทบาทผู้จัดการทีม คิง เคนนี่ คุมทัพ ลิเวอร์พูล พาต้นสังกัดคว้าแชมป์ดิวิชั่น พ่วงเอฟเอคัพ , รุด กุลลิท นำ “เชลซี” ซิวเอฟเอคัพ รอบ 26 ปี ,จานลูก้า วิอัลลี่ รับไม้ต่อ พาทีมคว้าลีกคัพ พ่วงคัพวินเนอร์สคัพ และ ไรอัน กิ๊กส์ นำ แมนยู ทำผลงานในแบบเฉพาะกิจ

ปัจจุบันการที่จะมีนักฟุตบอลเป็นทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีมในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องที่หายากมากๆในฟุตบอลยุคสมัยใหม่ ดังนั้นเพจ ทันเกม จะพาไปย้อนอดีตว่ามีแข้งดังในตำนานคนไหนบ้างที่โชคดี (หรือเปล่า?) ที่มีโอกาสควบงานทั้ง 2 ตำแหน่งพร้อมๆกัน (ติดตามอ่านบทความอื่นๆของ ทันเกม ต่อได้ที่นี่)

 

เซอร์เคนนี่ ดัลกลิช (ลิเวอร์พูล: ปี 1985 ถึง ปี 1990)

นักเตะระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมของสโมสรต่อจาก โจ เฟแกน ในปี 1985 โดยในตอนนั้น คิง เคนนี่ ต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีมในเวลาเดียวกันซึ่งผลงานที่เขาสร้างไว้ก็เข้าขั้นยอดเยี่ยมไม่ต่างจากตอนรับจ๊อบเป็นนักเตะอย่างเดียว

 

เริ่มต้นจากฤดูกาล 1985/1986 เซอร์เคนนี่ ดัลกลิช พา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ดิวิชัน 1 รวมถึงแชมป์เอฟเอคัพซึ่งถือเป็นการคว้าดัมเบิ้ลแชมป์ครั้งแรกของสโมสร หลังจากนั้นเขาก็พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชัน 1 เพิ่มอีก 2 ครั้ง และแชมป์เอฟเอคัพอีก 1 ครั้ง

 

ในส่วนของการลงเล่น วันที่ 5 พ.ค. 1990 ถือเป็นวันที่แข้งเลือดสก็อตลงสนามเป็นนัดสุดท้ายให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมส์ที่พบกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และด้วยวัยถึง 39 ปี ในขณะนั้นทำให้เขาครองสถิติเป็นนักเตะอายุเยอะที่สุด (ถ้านับหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2) ที่ลงเล่นให้กับทีมหงส์แดง

 

รุด กุลลิท (เชลซี: ปี 1996 ถึง ปี 1998)

1 ในแข้ง 3 ทหารเสือแห่งวงการลูกหนังและแข้งรางวัลบังลงดอร์ปี 1987 ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่กุนซือของ เชลซี แทน เกล็น ฮอดเดิ้ล ที่ไปรับงานคุม ทีมชาติอังกฤษ ในช่วงเดือน พ.ค. ปี 1996 ซึ่งในขณะที่รับงานเจ้าตัวยังเป็นนักเตะของสิงโตน้ำเงินครามอยู่

 

สำหรับฤดูกาลแรกในฐานะผู้เล่น-ผู้เล่นจัดการทีม รุด กุลลิท ใช้คอนเนคชั่นที่มีอยู่ทั่วยุโรปดึงนักเตะอย่าง ฟร็องก์ เลอเบิฟ, โรแบร์โต้ ดิ มัตติโอ, จานฟรังโก้ โซล่า และนักเตะดีกรีแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก อย่าง จานลูก้า วิอัลลี่ มาร่วมทีม ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่าหลังกุนซือและแข้งชาวดัตช์พา เชลซี คว้าถ้วยเอฟเอคัพซึ่งถือเป็นการคว้าแชมป์รายการใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี ของสโมสร

 

อย่างไรก็ตามเส้นทางของ รุด กุลลิท ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้องมาจบลงในอีก 21 เดือนให้หลังโดย เชลซี ไม่ตัดสินใจต่อสัญญากับเจ้าตัวโดยการเรียกร้องค่าเหนื่อยที่มากเกินไปของอดีตดาวเตะ เอซี มิลาน ถือเป็น 1 ในเหตุผลที่สโมสรใช้อ้างในการปลดครั้งนี้

 

จานลูก้า วิอัลลี่ (เชลซี: ปี 1998 ถึง ปี 2000 )

หลังจากปลด รุด กุลลิท ในช่วงเดือน ก.พ. ปี 1998 เชลซี ก็ยังคงยึดมั่นในวิธีการนำนักเตะมาทำหน้าที่ควบเป็นผู้จัดการทีมซึ่งทางสโมสรตัดสินใจแต่งตั้งแข้งที่อดีตกุนซือหัวเดทร็อคนำมาร่วมทีมอย่าง จานลูก้า วิอัลลี่ ขึ้นมาเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมคนใหม่ของสิงโตน้ำเงินคราม

 

โดยดาวเตะและผู้จัดการทีมชาวอิตาเลี่ยนเข้ามาสานต่องานของอดีตเจ้านายได้อย่างไร้ที่ติหลังพา เชลซี คว้าแชมป์ลีกคัพและ คัพ วินเนอร์ส คัพ ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนั้น ต่อมาในฤดูกาล 1998/1999 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ จานลูก้า วิอัลลี่ ลงเล่น เจ้าตัวก็สามารถพาทีมคว่ำ เรอัล มาดริด ในศึก ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ รวมถึง พาทีมเข้าไปเล่น ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

 

ท้ายที่สุด ถึงแม้ จานลูก้า วิอัลลี่ จะพาทีมประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในฤดูกาล 1999/2000 ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอคัพ แต่เขาก็ต้องมาโดนไล่ออกแบบคาดไม่ถึงในช่วงต้นฤดูกาล 2000/2001 หลังพา เชลซี คว้าชัยเพียง 1 นัด จาก 5 นัดแรกของฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าอีก 1 สาเหตุของการปลดเกิดจากที่เจ้าตัวมีปัญหากับผู้เล่นขาใหญ่ของสโมสรอย่าง ฟร็องก์ เลอเบิฟ, จานฟรังโก้ โซล่า และ อัลเบิร์ต เฟร์เรร์

 

ไรอัน กิ๊กส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ปี 2014)

ถึงแม้ฤดูกาล 2013/2014 จะไม่ใช่ปีที่น่าจดจำของสโมสรปีศาจแดง แต่อย่างน้อยมันคงเป็นปีที่น่าจดจำของตำนานปีกพ่อมดอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ เพราะนอกจากจะค้าแข้งเป็นปีสุดท้ายแล้ว เขายังได้โอกาสทำหน้าที่เป็นกุนซือชั่วคราวให้กับสโมสรที่ค้าแข้งมาตลอดชิวิตในช่วงท้ายฤดูกาลแทนที่ เดวิด มอยส์ ซึ่งก่อนหน้านั้นพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างสุดบู่

 

สำหรับผลงานตลอด 4 นัดที่ ไรอัน กิ๊กส์ กุมบังเหียน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าตัวพาทีมชนะ 2 นัด และเสมอกับแพ้ไปอย่างละ 1 นัด โดยนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ปีศาจแดงลงเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด กับ ฮัลล์ ซิตี้ แข้งชาวเวลส์เปลี่ยนตัวเองลงมาเล่นในสนามซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมคนแรกในรอบ 87 ปี ที่ลงเล่นให้กับสโมสร

 

ต่อมาหลังจากแขวนสตั๊ด เขาก็ยังวนเวียนอยู่ในโรงละครแห่งความฝันด้วยการทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ต่ออีก 2 ฤดูกาล และท้ายที่สุด ไรอัน กิ๊กส์ ก็ตัดสินใจปิดฉาก 29 ปี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลัง โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่เนื่องจากมีข่าวว่าเจ้าตัวจะถูกลดบทบาทจากทีมสต๊าฟโค้ชชุดใหญ่ไป

 

Related posts

© Copyright 2018, All Rights Reserved