Trending News

Blog Post

การขยายพันธุ์ เฟินเขากวาง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร
เกษตรยั่งยืน

การขยายพันธุ์ เฟินเขากวาง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร 

เฟิร์นเขากวาง  ไม้ประดับที่มีเสน่ห์เมื่อต้นสมบูรณ์เต็มที่ จะสร้างใบออกมาครอบปากกระถางจนมิด เพื่อรักษาความชื้นไว้ในวัสดุปลูกไม่ให้ระเหยไปในอากาศ จึงมักนำมาแต่งบ้านหรือคาเฟ่ต่างๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านหรือสถานที่นั้นๆ

การขยายพันธุ์ เฟินเขากวาง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

ทางด้านสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)ได้มีการนำ เฟิร์นเขากวาง มาทดสอบก่อนนำมาส่งเสริม และพบว่าสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้ดี

ฟิร์นเขากวาง เป็นไม้ประเภทเกาะอาศัยอยู่บนคาคบไม้ เฟิร์นชนิดนี้ ผิวใบด้านบนมีสีเขียวเข้มกว่าด้านล่าง กระเปาะที่สร้างสปอร์อยู่ที่ใบด้านล่างดังกล่าว ด้วยรูปร่างของใบคล้ายเขากวาง จึงเรียกกันว่า เฟิร์นเขากวาง แหล่งที่อยู่อาศัยในธรรมชาติ ต้องการร่มเงา และมีความชื้นในบรรยากาศสูง การขยายพันธุ์ทำได้ทั้งการแยกต้นและเพาะสปอร์ วิธีหลังทำได้ไม่ยาก โดยการนำวัสดุปลูกใส่ลงในภาชนะบรรจุ แล้ววางไว้ใกล้กับต้นเฟิร์นที่เป็นหนุ่มสาวแล้ว เมื่อสปอร์ตกลงในวัสดุปลูก เช่น ขี้เลื่อยชุ่มน้ำ มันจะงอกเป็นต้นอ่อน และเติบโตเป็นต้นสมบูรณ์ต่อไป

การขยายพันธุ์ เฟินเขากวาง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

กลางวันอยู่ในช่วง 19-27 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิกลางคืนลดลงต่ำกว่าอุณหภูมิกลางวันประมาณ 4-6 องศาเซลเซียส แสงสว่างประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ความชื้นในอากาศประมาณ 60-80 เปอร์เซ็นต์

การขยายพันธุ์เฟิร์นเขากวาง

1) วิธีการขยายพันธุ์เฟิร์นเขากวาง

โดยการเพาะสปอร์ คือ เริ่มจากการเก็บสปอร์ใต้ใบเฟิร์น โดยเลือกจากกลุ่มอับสปอร์ที่มีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งแสดงว่าสปอร์มีความแก่เต็มที่ ใช้มีดตัดใบเฟินส่วนที่มีสปอร์เก็บไว้ในซองกระดาษที่ไม่ทำให้สปอร์ขนาดเล็กฟุ้งกระจาย จากนั้นเก็บไว้ในบริเวณที่ร่มและแห้งภายใน 1-2 วัน สปอร์ก็จะแตกออกหมดแล้วใช้คีมขนาดเล็กคัดเอาอับสปอร์ และส่วนของใบหรือสิ่งต่างๆออกจากสปอร์แล้วเก็บสปอร์ทั้งหมดเตรียมเพาะต่อไป

2) การแบ่งกอเฟิร์นเขากวาง

การขยายพันธุ์ด้วยการแบ่งกอจะใช้กอที่มีอายุนานประมาณ 2-4 ปี มาแบ่งแยกเพื่อปลูกใหม่ อีกครั้งหนึ่ง

การดูแลรักษา

1. การจัดการด้านความเข้มแสง

ปลูกภายใต้โรงเรือนหรือปลูกในกระถาง อยู่ในโรงเรือนที่มุงซาแรนขนาด 70 เปอร์เซ็นต์

2. การจัดการด้านอุณหภูมิ

อุณหภูมิในโรงเรือนที่มีความเหมาะสม คือ 19-27 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางวัน

3. ปุ๋ย

ควรรดปุ๋ยน้ำพร้อมกับการรดน้ำต้นพืชสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จนกระทั่งเริ่มตัดดอกโดยสูตรผสม ดังนี้

 ปุ๋ย                               ถัง A (กิโลกรัม)        ถัง B (กิโลกรัม)

โมโนแอมโมโนฟอสเฟต  11-60-0              8                 –

แคลเซียมไนเตรท   15-0-0                  –                20 

โปรแตสเซียมไนเตรท 13-0-46               10               10

แมกนีเซียมซัลเฟต   MgSo4.7H2O          4                 –

ยูนิเลท                                0.5               – 

 

ปุ๋ยน้ำเข้มข้น(Stock) ตวงปุ๋ยน้ำสูตรA และ B อย่างละ 1 ลิตร ผสมน้ำสะอาดจำนวน 200 ลิตร คนให้เข้ากันก่อนรดน้ำพืชสามารถรดต้นพืชได้ 100-150 ตารางเมตร ควรให้ปุ๋ยเสริม เช่น ยูเรีย ละลายน้ำในระยะแรกของการเจริษเติบโตหรือปุ๋ยเกร็ดไบโฟลาน ปุ๋ยปลาเสริมเป็นบางครั้งแล้วแต่ความเหมาะสม

 

โรคและศัตรูพืชเฟิร์นเขากวาง

ใบเป็นจุดและโรคไหม้

สาเหตุ :เชื้อรา Rhizoctonia sp.

อาการ :ใบเป็นจุดขนาดใหญ่ ขอบแผลสีน้ำตาลเข้ม กลางแผลซีด ปลายใบไหม้

การขยายพันธุ์ เฟินเขากวาง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

วิธีป้องกัน

-ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคออกจากแปลงปลูกเผาทำลาย

-ฉีดพ่นสารเคมีบีโนมิล (เบนเลท โอดี, โฟโนมิลหรือฟันดาโซล) สลับกับแคปแทน(ออโธไซด์) หรือไตโคลเฟส-เมทธิล (ไรโซเล็กซ์) ทุก 5-7 วัน จนกว่าไม่พบการระบาด

แมลงด้วงปีกแข็ง

ลักษณะตัวเล็กมีฟันแหลมคม ชอบกัดกินยอดใบอ่อนเป็นอาหาร ทำให้ใบมีตำหนิหรือเสียหายได้

วิธีป้องกันเฟิร์นเขากวาง

– จับตัวทั้งเป็นมาทำลายซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลมาก 

– ใช้ศัตรูธรรมชาติทำลาย เช่น นก

– ใช้สารเคมีกำจัดแมลงฉีดพ่น

การให้น้ำ

ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอถ้าดินยังมีความชื้นให้ลดความถี่ของการให้น้ำลงโดยการทดสอบบีบเนื้อดิน การปลูกภายในโรงเรือนซาแรนดำควรระมัดระวังเรื่องน้ำขัง โดยอาจต้องทำการยกร่องระบายน้ำเนื่องจากความชื้นที่มากเกินไปทำให้ต้นเน่าได้

การเก็บเกี่ยว

1) ระยะเก็บเกี่ยว

ใบต้องมีความแก่พอเหมาะสม และมีความสดไม่มีโรคและแมลงทำลายใบตรงคดงอได้ไม่เกิน 30 องศา

2) วิธีการเก็บเกี่ยว

ใช้กรรไกรตัดใบที่แก่และสดมีสีเขียว

3) การวัดมาตรฐาน

เกรด 1 ความยาวของใบ 70-80 เซนติเมตร

     ความกว้างของใบ 20-30 เซนติเมตร

เกรด 2 ความยาวของใบ 60-70 เซนติเมตร

     ความกว้างของใบ 15-20 เซนติเมตร

เกรด U ความยาวของใบ 50-60 เซนติเมตร

     ความกว้างของใบ 15-20 เซนติเมตร

4) ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยว

ควรตัดตอนเช้าหรือตอนเย็น

การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว

– ควรแช่น้ำยารักษาอายุการใช้ของดอกไม้

– ในระหว่างการเก็บรักษา หรือการขนส่ง ควรอยู่ในที่ร่ม แสงแดดส่องไม่ถึง

Related posts

© Copyright 2018, All Rights Reserved