| On 1 year ago

สาวใหญ่เสียท่า "คอลเซ็นเตอร์" อ้างเป็นสรรพากร ลวงโอนเงินแสนเกลี้ยงบัญชี

สาวใหญ่ เมืองกรุงเก่า น้ำตาตก โดน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" สวมรอยเป็นสรรพากรอ้างช่วยเรื่องลดหย่อนภาษี สุดท้ายหลอกโอนเงินแสน หมดเกลี้ยงบัญชี

30 พ.ย.2565  น.ส.ประภัสสร ( สงวนนามสกุล ) อายุ 49 ปี ชาวพระนครศรีอยุธยา  นำหลักฐานร้องต่อผู้สื่อข่าว ว่าตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จนต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก โดย น.ส.ประภัสสร เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนเองมีอาชีพค้าขาย 

 

ก่อนหน้านี้ โทรศัพท์ หมายเลข  08-2304–xxxx โทรเข้ามาที่มือถือของตน โดยปลายสายเป็นเสียงผู้ชายแนะนำตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร จะติดต่อช่วยทำเรื่องลดหย่อนภาษีให้ พร้อมให้แอดไลน์เพื่อพูดคุยและตรวจสอบบัญชี ตนหลงเชื่อจึงได้แอดไลน์ไป 

 

จากนั้นได้มีการพูดคุยกันผ่านวีดีโอคอล  สอบถามว่าตนมีบัญชีธนาคารกี่บัญชี  รายได้ต่อวันเท่าไร ตนจึงบอกไปว่ามีบัญชีเดียว รายได้ประมาณวันละ 300 – 400 บาทเมื่อคนร้ายทราบว่าตนเองมีอาชีพค้าขาย มีบัญชีธนาคารและแอปฯ เป๋าตัง คนร้ายได้ส่งข้อความและลิงก์เข้ามาในไลน์  และให้กรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ โดยอ้างว่าเพื่อให้ทำการลดหย่อนภาษีประจำปี

 

เมื่อตนกรอกข้อมูลเสร็จ และส่งกลับไป คนร้ายโทรวีดีโอคอลกลับมาอีก บอกว่าเข้าระบบไปแก้ไขข้อมูลในแอปฯ เป๋าตังเพื่อลดหย่อนภาษีไม่ได้ พร้อมกับสอนวิธีเข้าไปแก้ระบบแก้บัญชี หลอกล่อให้ตนเองกดปุ่มหลายปุ่ม รวมถึงรหัสบัตรเอทีเอ็ม จากนั้นบอกว่าจะโทรกลับมาแจ้งผลให้ทราบอีกครั้ง

 

 

 

 

หลังจากนั้นตนเองรู้สึกผิดสังเกตว่าจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก จึงรีบไปดูที่โทรศัพท์ แอปฯ ในโทรศัพท์ก็หาย โทรศัพท์กลับไปตามเบอร์ที่โทรเข้ามา และโทรไลน์ก็ไม่มีใครรับ พอเข้าไปเช็กแอปฯ ธนาคารก็หายไปหมด จึงรีบไปเช็คเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่ามีเงินเหลือในบัญชีเพียง 67 สตางค์
 

 

 

 

 

 

จากนั้นตนจึรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแล้ว แนะนำให้ตนเองไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ ซึ่งตนไม่รู้จักว่าหน่วยงานนี้อยู่ที่ไหน จะไปแจ้งความอย่างไร รู้สึกหมดหนทาง  หวังเพียงแค่ว่าจะเอาบันทึกประจำวันไปแจ้งกับทางธนาคาร ขอดูว่าเงินที่โอนไปนั้นไปอยู่กับใคร ตนเองจึงได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือกับทางธนาคาร จนทราบชื่อที่อยู่ของบัญชีที่โอนเงินไป ทางธนาคารบอกว่าไม่สามารถดำเนินการอะไรให้ได้ ต้องมีหลักฐานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยัน เพื่อดำเนินการต่อได้

 

 

 

 

น.ส.ประภัสสร  ยังบอกอีกว่า เงินในบัญชีที่ถูกถอนออกไปนั้น เป็นเงินที่นำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ เพิ่งจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีมา 100,000 บาท รวมกับเงินที่เก็บไว้ในบัญชีอีก 13,000 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 113,000 บาท หายไปเกลี้ยงบัญชี ตอนนี้เครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ นอนร้องไห้ทุกคืน ต้องทำมาหากินหาเงินมาใช้ไฟแนนซ์ นึกไม่ถึงระวังมาโดยตลอด แต่ทำไมต้องมาโดนเข้ากับตัวเองพอใจ

 

 

 

 

สุทธิพร กองสุทธิผล  จ.พระนครศรีอยุธยา