Trending News

Blog Post

ซื้อ รถไฟฟ้าEV ต้องจ่ายภาษีประจำปีเท่าไหร่? หลังจาก ครม.ให้ส่วนลดถึง 80%
ยานยนต์

ซื้อ รถไฟฟ้าEV ต้องจ่ายภาษีประจำปีเท่าไหร่? หลังจาก ครม.ให้ส่วนลดถึง 80% 

ซื้อ รถไฟฟ้าEV  ต้องจ่ายภาษีประจำปีเท่าไหร่? หลังจาก ครม.เคาะให้ส่วนลดถึง 80%

ซื้อ รถไฟฟ้าEV  ต้องจ่ายภาษีประจำปีเท่าไหร่? หลังจาก ครม.ให้ส่วนลดถึง 80%

เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ลดการใช้น้ำมัน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยน่าใช้มากขึ้น ครม.ได้เคาะส่วนลดภาษีประจำปีถึง 80% กับรถไฟฟ้าที่ซื้อตั้งแต่ปี 1 ต.ค.65 – 30 ก.ย. 68 พร้อมโครงการส่วนลดต่างๆ 

ซื้อ รถไฟฟ้าEV  ต้องจ่ายภาษีประจำปีเท่าไหร่? หลังจาก ครม.ให้ส่วนลดถึง 80%

 

ซื้อ รถไฟฟ้าEV  ต้องจ่ายภาษีประจำปีเท่าไหร่? หลังจาก ครม.ให้ส่วนลดถึง 80%

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.ลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ตามกฏหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. …. โดยลดอัตราภาษีประจำปี สำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่จดทะเบียน ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 68 ลง  80 %ของอัตราที่กำหนด คาดว่าจะมี รถอีวี   128,736 คัน เข้าร่วม  ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีประจำปี  2565 -2568 ประมาณ 18.97 ล้านบาท   สูญเสียรายได้เพียง  0.05% เป็นจำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับรายได้ที่กรมการขนส่งทางบกจัดเก็บทั้งหมด ไม่กระทบต่อรายได้ของกรุงเทพมหานครและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะนำไปจัดทำบริการสาธารณะให้กับประชาชน

โดยอัตราภาษีที่เป็นส่วนลดที่ประชาชนต้องจ่ายภาษีรถ EV ประเภทต่างๆ ตามนี้

1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน

ขนาดน้ำหนักรถไม่เกิน 500 กิโลกรัม (กก.) จ่าย 30 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 501 –  750  ก.ก.  จ่าย 60 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 751-1,000 ก.ก.จ่าย 90 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,001-1,250 ก.ก. จ่าย 160 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,251-1,500 ก.ก. จ่าย 200 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,501-1,750 ก.ก.จ่าย 260 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,751 -2,000 ก.ก.จ่าย 320 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 2,001-2,500 ก.ก.จ่าย 380 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 2,501-3,000 ก.ก. จ่าย 440 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 3,001-3,500 ก.ก.จ่าย 480 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 3,501 – 4,000 ก.ก.จ่าย 520 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 4,001-4,500 ก.ก.จ่าย 560 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 4,501 – 5,000 ก.ก.จ่าย 600บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 5,001-6,000 ก.ก.จ่าย 640 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 6,001 -7,000 ก.ก.จ่าย 680 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 7,001 กก. ขึ้นไปจ่าย 720 บาท 

2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน 7คน  

น้ำหนักรถไม่เกิน 500 ก.ก.จ่าย 15 บาท

ขนาดน้ำหนักรถ 501 –  750  ก.ก.  จ่าย 30 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 751-1,000 ก.ก.จ่าย 45 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,001-1,250 ก.ก. จ่าย 80 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,251-1,500 ก.ก. จ่าย 100 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,501-1,750 ก.ก.จ่าย 130 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,751 -2,000 ก.ก.จ่าย 160 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 2,001-2,500 ก.ก.จ่าย 190 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 2,501-3,000 ก.ก. จ่าย 220 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 3,001-3,500 ก.ก.จ่าย 240 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 3,501 – 4,000 ก.ก.จ่าย 260 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 4,001-4,500 ก.ก.จ่าย 280 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 4,501 – 5,000 ก.ก.จ่าย 300 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 5,001-6,000 ก.ก.จ่าย 320 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 6,001 -7,000 ก.ก.จ่าย 340 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 7,001 กก. ขึ้นไปจ่าย 360 บาท 

3.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 

ประเภท ก.รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลเสียภาษีในอัตรา 10 บาท 

ประเภท ข.รถจักรยานยนต์สาธารณะเสียภาษีในอัตรา 10 บาท

4.รถบดถนน เสียภาษีในอัตรา 40 บาท 

5.รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร เสีภาษีในอัตรา 5 บาท 

6.รถรับจ้างระหว่างจังหวัด 

น้ำหนักรถไม่เกิน 500 ก.ก.จ่าย 45 บาท

ขนาดน้ำหนักรถ 501 –  750  ก.ก.  จ่าย 75 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 751-1,000 ก.ก.จ่าย 105 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,001-1,250 ก.ก. จ่าย 135 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,251-1,500 ก.ก. จ่าย 165บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,501-1,750 ก.ก.จ่าย 210 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 1,751 -2,000 ก.ก.จ่าย 255 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 2,001-2,500 ก.ก.จ่าย 300 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 2,501-3,000 ก.ก. จ่าย 345 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 3,001-3,500 ก.ก.จ่าย 390 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 3,501 – 4,000 ก.ก.จ่าย 435บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 4,001-4,500 ก.ก.จ่าย 480 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 4,501 – 5,000 ก.ก.จ่าย 525 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 5,001-6,000 ก.ก.จ่าย 570 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 6,001 -7,000 ก.ก.จ่าย 615 บาท 

ขนาดน้ำหนักรถ 7,001 กก. ขึ้นไปจ่าย 660 บาท 

ทั้งนี้อัตราดังกล่าวคิดในอัตรา 20% ของอัตราปกติที่เจ้าของรถต้องจ่ายภาษีรถประจำปี ตามมติ ครม.ที่ให้มีการลดภาษีประจำปีรถ EV ทุกประเภทลง 80% การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า BEV ที่ประกอบหรือผลิตในเขตปลอดอากรหรือในเขตประกอบการเสรี ในปี 2565 – 2568 คาดว่าจะมีการสูญเสียรายได้ประมาณ 36,128 ล้านบาท และอาจจะเพิ่มสูงขึ้นตามปริมาณความต้องการภายในประเทศ แต่จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการผลิต BEV ในประเทศ และช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต BEV

Related posts

© Copyright 2018, All Rights Reserved