| On 2 years ago

"สกลธี" ปราศัยใหญ่ ชูนโยบายทำเป็น ทำทันที ทำได้ "สกลธีโมเดล"

    13 พ.ค.65 เวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของ นาย สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครฯผู้ว่ากรุงเทพมหานคร หมายเลข 3 ณ ลานคนเมือง เปิดนโยบายทำเป็น ทำทันที ทำได้ “สกลธีโมเดล” อยากให้กรุงเทพฯดีกว่านี้เลือก (จั้ม) สกลธี ทำเป็น ทำได้ ทำทันธี เบอร์ 3  วันที่ 22 พค.นี้ "เลือกสกลธี ทำทันทีเบอร์3"

 

   ซึ่ง  นาย สกลธี  เปิดนโยบายทำทันที ทำได้ "สกลธีโมเดล  "กรุงเทพฯดีกว่านี้ได้"  พร้อมเปิดตัวทีมงานพลังหนุนสำคัญบนเวที ประกอบด้วย ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ทีมที่ปรึกษาด้านไอทีและดิจิทัล ,ฝันดี จรรยาธนากร ทีมที่ปรึกษาด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดร.นริศรา ลิ้มธนากุล ทีมที่ปรึกษาด้านการจราจรและการขนส่งสาธารณะ ,กฤษณะ แก้วธำรงค์ ทีมที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว เจตน์​ โศภิษฐ์พงศธร ทีมที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมศิลปะและวัฒนธรรม  ,ณัฐรดา เลขะธนชลท์ ทีมที่ปรึกษาด้านการศึกษา

  นอกจากนี้  นายสกลธี ได้ขึ้นเวทีปราศรัยขอบคุณทุกคนที่มาร่วมให้กำลังใจตนในวันนี้ โดยกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นนานแล้วในการมีปราศรัย ตนคิดว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งครั้งนี้มีผู้สมัครถึง 31 คน หลายคนก็มีการนำเสนอนโยบายที่ดีกับกทม. ก็เป็นเรื่องดีของคนกทม. 


 

โดยตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่อาสาเข้ามาในครั้งนี้ หลายท่านก็อาจจะรู้จักตนอยู่แล้ว หลายท่านก็ยังไม่ทราบ ซึ่งตนเคยเป็น ส.ส.เขตบางซื่อ พญาไท และเคยเป็นรองผู้ว่าฯกทม.อยู่ 4 ปี ก่อนจะมาลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในครั้งนี้

  ส่วนเรื่องที่ตนเคยเป็นแกนนำ กปปส.นั้นตนไม่เคยเสียใจ เพราะตอนนั้นตนไม่เห็นด้วยที่มีกลุ่มคนทำให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณของประเทศ ซึ่งการที่ตนมาลงสมัครผู้ว่า กทม.ครั้งนี้เพราะตนอยากให้ กทม.ดีขึ้นกว่านี้ และคนก็หลงรักเมืองนี้ทั้งผู้คน สถานที่และอาหาร แต่ทั้งนี้ตนก็อึดอัดและคิดว่าทำไมกรุงเทพฯจะดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้ ทั้งที่ทุกคนก็จ่ายภาษี 

  การที่ตนเข้ามาเป็นรองผู้ว่าฯกทม.ก่อนหน้านี้นั้น ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้กรุงเทพฯดีขึ้น ซึ่งตนก็ได้ดำเนินการเรื่องเรือไฟฟ้าที่วิ่งโดยสารที่คลองแสนแสบ และต้องทำให้เงินทุกบาททุกสตางค์ของคนกทม.ที่เสียภาษีเกิดประโยชน์มากที่สุดให้กับคน กทม. รวมถึงเรื่องของการเก็บขยะของกทม.ด้วยว่าที่ผ่านมาล้มเหลว ซึ่งถ้าตนได้เป็นผู้ว่า กทม.จะให้เอกชนทำในเรื่องนี้แทน จะมีงบประมาณไปทำเรื่องอื่นๆด้วย โดยผู้ว่า กทม.ต้องหาเงินเป็นและต้องใช้เงินเป็นด้วย

พร้อมย้ำว่าเพราะอะไรต้องเลือกตนเป็นผู้ว่ากทม. คือถ้าเลือกตนจะได้ผู้ว่าที่อยู่ในวัยทำงาน มีความพร้อมและมีในการทำงานในวัย 44 ปี และจะได้ผู้ว่าฯที่มีประสบการณ์ในการทำงานซึ่งตนทราบเรื่องทุกอย่างและสามารถทำงานได้ทันที รวมถึงจะได้ผู้ว่าฯที่หาเงินได้ใช้เงินเป็นและจะกระจายงบประมาณไม่ให้กระจุก และสิ่งที่ตนทำจะมีความยั่งยืน ไม่ให้เป็นอนุสรณ์ที่ไม่มีประโยชน์และที่สำคัญจะได้ผู้ว่าฯที่มีความอิสระ ทีมงานของตนไม่มีสานสัมพันธ์อะไรกับนักการเมืองทั้งสิ้น และคนเดียวที่ตนจะตอบแทนคือคนกรุงเทพมหานคร

  ทำไมถึงต้องเป็นสกลธี  สาเหตุที่ต้องเลือก"สกลธีทำทันธี เบอร์ 3"

1.ท่านจะได้ผู้ว่าที่อยู่ในวัยทำงาน อย่างตนที่อยู่ในวัยที่มีไฟในการทำงาน
2.จะได้ผู้ว่าที่มีประสบการณ์ทำงาน ที่สามารถทำงานไดเเลย
3.จะได้ผู้ว่าที่หาเงินได้ใช้เงินเป็น และกระจายไปครบทุกเขตของกทม.และจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินในการพัฒนากทม.ไม่พอ และที่สำคัญจะต้องมีความยั่งยืน
4.ได้ผู้ว่าอิสระที่ทำเพื่อคนกทม.อย่างแท้จริง จากฝีมือและความสามารถโดยไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมืองใดก็สามารถพัฒนากทม.ได้