Categories: กีฬา
| On 2 years ago

ย้อน "ฟุตบอลโลก" ฝรั่งเศส ปาดหน้า โครเอเชีย สอยแชมป์ 2018

ย้อนความทรงจำ "ฟุตบอลโลก" ครั้งล่าสุดก่อน ฝรั่งเศส สอย โครเอเชีย คว้าแชมป์โลก ก่อนจะเตรียมตัวเปิด "ฟุตบอลโลก 2022" วันที่ 20 พ.ย. นี้

"ฟุตบอลโลก 2022" หรือ FIFA World Cup Qatar 2022 กำลังนับถอยหลังเตรียมเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งการแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย จัดขึ้นที่ ประเทศกาตาร์ เป็นเจ้าภาพ รวมทั้งสิ้น 32 ทีมชาติ ร่วมฟาดฟันกัน  ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน ไปจนถึง 18 ธันวาคม  ทั้งนี้หากย้อนความทรงจำ ก่อน "ฟุตบอลโลก 2022" จะเริ่มขึ้น "ฟุตบอลโลก" ครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างไรกันบ้างก่อนจะปิดทัวร์นาเมนต์ลง และเป็น ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลก ไปได้สำเร็จ 

โดย "ฟุตบอลโลก" ครั้งล่าสุด คือ ฟุตบอลโลก 2018 หรือเมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมา จัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย หากย้อน  ความทรงจำ ของแฟนลูกหนัง หลาย ๆ คนที่ได้รับชม บรรยากาศ ของการแข่งขัน ซึ่งแต่ละทีมชาติที่ผ่านเข้ามานับว่าไม่มีคำว่ายอมกันอย่างแน่นอน โดย 10 เหตุการณ์ ฟุตบอลโลก 2018 มีดังนี้ 

 

1. เจ้าภาพประเดิมคว้าชัย

รัสเซีย เจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2018 ลงเล่น รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่น ในสนาม ลุจนีกี ซึ่งมีผู้เข้าชมนัดเปิดสนามกว่า 78,000 คน ก่อนที่ ทัพ หมีขาว จะประเดิมชัยชนะเหนือ ซาอุดิอาระเบีย ไปด้วยสกอร์ 5-0  

2.  คริสเตียโน โรนัลโด เปิดสนามแฮตทริก 

คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์หมายเลข 1 ของยุโรป ในเวลานั้น เริ่มต้นฟอร์มร้อนแรงด้วยการยิง แฮตทริกใส่ สเปน ในเกมนัดเปิดสนาม รอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่เกมดังกล่าวจะจบลงแบบสุดมันส์ 3-3 

3.  เมสซี่ พลาดจุดโทษ 

อาร์เจนติน่า ลงเล่นนัดแรก พบกับ ไอซ์แลนด์  ซึ่งเกมดังกล่าว ทัพ ฟ้าขาว ได้ประตูออกนำก่อน 1-0 แต่กลับโดนตีเสมอ จาก ไอซ์แลนด์ ก่อนที่จะมีดราม่าเมื่อ อาร์เจนติน่า ได้จุดโทษ ลิโอเนล เมสซี่ รับหน้าที่สังหาร แต่เป็น ฮันเนส ธอร์ ฮัลล์ดอร์สสัน ปฏิเสธลูกยิงไว้ได้ และจบเกม 1-1 

 

4. แชมป์เก่า ประเดิมพ่าย 

ทัพ อินทรีเหล็ก ทีมแชมป์โลก ปี 2014 ลงสนามนัดแรก พบกับ เม็กซิโก ก่อนจะทำเอาแฟนบอล ช็อกโลก เยอรมนี ประเดิมพ่าย เม็กซิโก ไปด้วยสกอร์ 0-1 

5. โครเอเชีย สยบ อาร์เจนติน่า ยับ 

โครเอเชีย พบ อาร์เจนติน่า ซึ่งถือเป็น คู่ใหญ่ ที่หลายคนคาดการณ์ก่อนการแข่งขันว่า จะเล่นกันได้สูสี แต่เมื่อผลจบลงกลับกลายเป็น ทีมตราหมากรุก ไล่ถล่ม ฟ้าขาว 3-0 

6. อินทรีเหล็ก แชมป์โลก กลับบ้านอย่างรวดเร็ว 

เยอรมนี ซึ่งจำเป็นต้องชนะนัดสุดท้าย เพื่อผ่านเข้าสู่ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเกมพลิกร็อก เมื่อสุดท้ายแพ้ให้กับ เกาหลีใต้ 0-2 ส่งผลให้ ทั้ง อินทรีเหล็ก และ โสมขาว กอดคอ ตกรอบแรกทั้งคู่ 

 

 

 

7. เบลเยียม เอาตัวรอดเฉือน ญี่ปุ่น น็อคเอาท์ 

ใน รอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือ รอบ น็อคเอาท์ ซึ่งหนึ่งในเการแข่งขัน ไฮไลท์ เมื่อ เบลเยียม ตกเป็นรอง ญี่ปุ่น ถึง 0-2 แต่พลิกสถานการณ์ยิงประตูแซงเอาชนะ ญี่ปุ่น 3-2 ได้ในที่สุด 

8. เจ้าภาพ เซอร์ไพรส์เขี่ย สเปน ตกรอบ 

ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รัสเซีย เจ้าภาพ ที่เล่นต่อหน้าแฟนบอล ซึ่งเสมอกับ สเปน ในเวลาปกติ 1-1  ต้องเล่นจนถึงการดวลจุดโทษ ก่อนสุดท้าย รัสเซีย จะเอาชนะ สเปน ไปได้ 4-3 

9. ฟอร์มเปรี้ยงของ แฮร์รี่ เคน 

แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าของ อังกฤษ ถึงแม้จะไม่สามารถพาทัพ สิงโตคำราม ไปถึงฝั่งฝันได้ แต่ถือเป็น "ฟุตบอลโลก" ครั้งสำคัญที่ เคน คว้ารางวัล ดาวซัลโว ของทัวร์นาเมนต์ ด้วยการยิงประตูรวม 5 ลูก 

10. แชมป์ที่คู่ควร ของทัพ ตราไก่ 

ฝรั่งเศส สร้างผลงานยอดเยียม ในการคุมทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ พาทัพ ตราไก่ เอาชนะ โครเอเชีย ในรอบชิงชนะเลิศ 4-2 ทำให้ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลก สมัยที่ 2 

สำหรับชาติที่ผ่านการลงเล่น ฟุตบอลโลก 2018 และ ทำผลงานผ่านเข้าสู่ "ฟุตบอลโลก 2022" ได้ทั้งหมด 22 ทีมชาติ 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube Official : https://youtube.com/user/KOMCHADLUEK 

CREDIT PHOTO : foxsports , [email protected] , skysports , mirror , [email protected]